Home
|
ข่าว

เศรษฐาป่วย-สัญญาณเตือนคนชั้น 14?

การเมืองนอกจากการ “จับสัญญาณ” ผลพวงจากผลคดี ที่ “พิธา-ก้าวไกล” รอดจากคดีถือหุ้นสื่อ ” วันนี้ (24 ม.ค.) หลายฝ่ายการเมือง ยังมีการจับสัญญาณรวมผ่าน ผ่านการอ่าน “ภาษากาย” ของ “นายกฯเศรษฐา”

 

 

จากที่เคย “โชว์ฟิต” มาตั้งแต่สภาโหวตให้เป็นนายกฯคนที่ 30 (22ส.ค.66) ทำงานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ขึ้นเหนือล่องใต้ไปต่างประเทศ โดยแทบไม่เคยหยุดพัก กับ จู่ ๆ มาเกิด “ป่วย”ถึงขนาดต้องขอพักให้ “รองนายกฯสมศักดิ์” ทำหน้าที่ประชุมแทนและป่วยระหว่างการไปประชุมครม.สัญจรที่ระยอง แถมออกตัวว่าขอเลื่อนนอนทำเนียบฯออกไป ว่าจะเกี่ยวอะไรกับบรรดา “สัญญาณบางอย่าง” ที่ถูกส่งผ่านในลักษณะ “สอดคล้อง” กันในห้วงนี้หรือไม่ (พิธา-นายก)

 

ไม่แต่ “สัญญาณล่าสุด” ทั้งที่ออกมาจาก “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” ที่ยืนยัน “เศรษฐกิจไม่วิกฤติ”หลังเมื่อวานมีปม เอกสาร “การเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับตัวเลข คาดการณ์ทางเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังหลุดออกมาสู่สาธารณะผ่าน “กลุ่มไลน์นักข่าว” ก่อนถูกลบไป เป็นเอกสารที่ ก.คลังฯเตรียมแถลงข่าวคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจปี 2566-2567 ในวันที่ 24 ม.ค.

 

โดย ระบุว่า ตัวเลขปี 66 ศก.โตได้แค่ 1.8% ต่ำกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ไว้ที่ 2.4%ที่ต่อมา “โฆษกชัย” ออกมา “ขออภัยในความไม่สะดวก” ชี้แจงว่า ข้อมูลรายงานข้างต้นยังเป็นเพียงฉบับร่าง รอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลังซึ่งเอกสารนี้ ออกมาในช่วงที่รัฐบาล ยังเห็นคนละทาง กับ “สภาพัฒน์”,”กฤษฎีกา” และ “แบงค์ชาติ” โดยรัฐบาลพยายามต้องมีเหตุผล “ประเทศวิกฤติ” เพื่อสามารถออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน เพื่อใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต(นายก +จุลพัน +ชัย)

 

โดย อีก “สัญญาณ” ที่ถูกจับตาคือ การ “แอ๊คชั่น” ของ 98 สว.หลังไปยื่นขอเปิด “ซักฟอกรัฐบาล”โดยไม่ลงมติ ตาม ม.153 ใน 7 ข้อ โดยไฮไลท์ที่ 2 ประเด็นคือ ปม “กระบวนการยุติธรรมคนชั้น14″และ “ปมดิจิทัลวอเล็ต” ที่มาทั้งในและนอกสภา ไม่นับรวม “แอ๊คชันล่าสุด” วันนี้ของ “ถวิล เปลี่ยนสี”ที่ร้องขอ ‘ป.ป.ช.’ ประสาน ‘อสส.’ ยื่นอุทธรณ์ คดี ‘ยิ่งลักษณ์’ โยกย้ายไม่เป็นธรรม ก่อนครบกำหนด 26 ม.ค.โดยยันไม่ต้องการเอาชนะหรือเจ็บแค้น

 

แต่อยากให้กฎหมายไปให้ถึงที่สุด โดยมีการวิเคราะห์กันว่าเป็น “สัญญาณเตือนแรง” จาก “ฝ่ายอำนาจ” ไปยัง “นายกฯเศรษฐา” พรรคเพื่อไทยรวมถึง “คนชั้น 14” โดยเฉพาะ การจับตาไปที่ “กลุ่มสว.59 คน” ใน 98 คน ซึ่งเป็น 59 คน (สว.+ทักษิณ+ นายก) ที่เคยลงคะแนนให้ “เศรษฐา” เป็นนายกฯคนที่ 30

 

อย่างที่ “อ.ธนพร ศรียากูล” ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย วิเคราะห์ว่า ใน 98 สว.ถูกมองว่า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ1. กลุ่ม 59 สว.ที่โหวตเห็นชอบเศรษฐาเป็นนายกฯ(22ส.ค.66) 2. 28 สว.ที่งดออกเสียงในวันโหวตเศรษฐา และ 3. 11 สว.ที่โหวตไม่เห็นชอบที่จะให้เศรษฐาเป็นนายกฯโดย กลุ่มที่ทำให้ทุกฝ่าย “ช็อคฟิล” คือ “กลุ่ม 59 สว. ที่ทำให้มีการวิเคราะห์ว่า งานนี้มี “ไฟเขียว”เหมือนเช่นตอนโหวตให้เศรษฐา ส่วนทำไมต้องไฟเขียว มองว่า มีเหตุอยู่ 2 เรื่องใหญ่ ใน 7 เรื่อง ที่สว.ยื่นคือ ปม “ลุงโทนี่” จากเคส “ชั้น 14” และปมดิจิทัลวอเล็ต สว.กลุ่มนี้ เป็น “สัญญาณ” ของ “กลุ่มผู้กุมอำนาจระบบการเมืองนอกสภาฯ”ที่ในสภา ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายคะแนนอย่างไรก็สู้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้

 

แต่การเมืองไทยไม่ได้มีเฉพาะเสียงที่สนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎร ทุกคนก็รู้ หมายถึง 1.”ระบบราชการประจำ” ซึ่งวันนี้ เราเห็นอาการของ “แบงค์ชาติ” “สภาพัฒน์” “กฤษฎีกา” ก็รู้แล้วนี่ก็คืออีกตัวละครในระบบการเมือง 2.กระบวนการยุติธรรม 3.องค์กรอิสระที่ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของ ปปช.ที่สัมพันธ์กับรายงานของ ปปช.ที่เปิดออกมาสว.กลุ่มนี้ ได้รับไฟเขียวมาก็มาขยี้ซ้ำ เตือนแรง ๆ เรื่องแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต ซึ่งยังไม่นับรวมเรื่อง “คนชั้น 14” ที่หากยังไม่ฟังรัฐบาลก็มีโอกาสคว่ำได้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube