ยังกระเพื่อมไหวต่อเนื่อง ทุกหย่อมหญ้า ทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝั่งอำนาจทางการเมืองไปยันกลุ่มเคลื่อนไหวและประชาชน
ทั้ง “ขั้วฝ่ายตรงข้าม” และฝ่ายเดียวกัน FC แดงเพื่อไทยที่ไปคอยต้อนรับ พลันที่ได้เห็น “ภาพ”ที่เหมือนตั้งใจให้เห็นจากทั้งผู้คนในรัฐบาลเพื่อไทยและจากครอบครัวอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” ที่ไม่แต่การเปิดกระจกให้นักข่าวชักภาพ “ทักษิณ” ออกจากโรงพยาบาล จนส่งถึง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” หรือกระทั่งการโพสต์ภาพพ่อที่มานั่ง ริมสระน้ำ ลงIG ที่ต่อมากลายเป็น “ภาพดราม่า” ในโลกโซเชียล โดย อุ๊งอิ๊งค์ ช่วงเช้าเมื่อวาน (18ก.พ.) (ทักษิณ+อุ๊งอิง)
กระทั่งถึงวันนี้ ที่มีแอ๊คชั่นมูฟเม้นท์ของ “ทักษิณ” ที่ ปอท.มีการนำตัว “ทักษิณ” ผู้ต้องหาไปส่งต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาที่ได้รับมอบหมายจาก “อัยการสูงสุด” รับผิดชอบดำเนินคดี ม.112 ซึ่ง “ทักษิณ”ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด (6ก.พ.) ซึ่ง “นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์” อัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม และ อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายทักษิณ
โดยมีหลักประกัน เนื่องจากมีเงื่อนไขที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมคุมประพฤติแล้ว ทั้งนี้อัยการยังบอกเหตุผลด้วยว่า เพราะจากสภาพที่เห็น “ทักษิณ”ซึ่งนั่งวีลแชร์มาพบอัยการ ดูแล้วป่วยขั้นวิกฤติ เดินไม่ไหว และจากการพูดคุย นายทักษิณก็ไม่ค่อยมีเสียงก่อนจะนัด ให้มาพบพนักงานอัยการในวันที่ 10 เม.ย. 67 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด (ทักษิณ+อัยการ)
เรียกว่าเพียงวันที่ 2 จากการลงมาจาก “ชั้น14” โรงพยาบาลตำรวจ ของ “ทักษิณ” ได้ก่อเกิดเอฟเฟ็กต์มากมาย ไปในหลายวงการ ไม่แต่ “กลุ่ม คปท.” ที่เคลื่อนไหวเรื่อง “ทักษิณ” ที่ยังยืนยันปักหลักหน้าทำเนียบฯต่อไปจนถึง2มี.ค.ที่ขออนุญาตไว้ หรือพรรคฝ่ายค้านทั้งก้าวไกลและประชาธิปัตย์ ที่ออกแอ๊คชั่นตรวจสอบ “อาการป่วยทิพย์” ของ“ทักษิณ” เช่นเดียวกับปีก สว.ที่มีแอ๊คชั่นจาก สว.ที่ถูกมองเคยเป็น “โจทก์”
รวมถึง “หมอวรงค์” ที่ออกมาวิเคราะห์อาการผ่านภาพริมสระน้ำ หรือแม้กระทั่ง “อดีตคนกันเองที่อกหัก” อย่าง “ตู่-จตุพร” ที่วิเคาะห์ความจงใจให้คน เห็นภาพออกจากรพ.ตำรวจ ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ตรงไปตรงมา โดยการพักโทษจะไม่จบลงเพียงได้กลับบ้าน
ขณะที่ข้อสงสัยว่าป่วยจริงหรือไม่ ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ประกอบกับคนเห็นรูปก็ ยิ่งมีข้อสงสัยเพิ่มมากมายขึ้นไปอีกและว่า ภาพและอาการออกจากโรงพยาบาล แสดงให้เห็นว่าดีลยังไม่ถูกเบี้ยว แต่กลับได้รับการคุ้มครองกันเต็มที่อยู่ขณะที่อารมณ์ของประชาชนเมื่อเห็นภาพคงรู้สึกอึดอัด ไร้ทางออก ดังนั้น การพักโทษกลับบ้านจึงไม่ใช่เรื่องชนะทางการเมือง ขณะเดียวกัน ยิ่งทำให้การเมืองเดินบนเส้นทางบีบตันมากขึ้นไปอีก (ทักษิณ+คทป+ก้าวไกล+ปชป.+สว.+หมอวรงค์+จตุพร)
โดย ตู่มองว่า สิ่งที่ ทักษิณ ทำได้นำพาไปสู่ความเสียหายของประเทศ โดยอีก 1-2 เดือนข้างหน้าจะได้เห็นอะไรเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจมีแนวโน้มเดินข้ามเดือนพ.ค. ซึ่ง สว. ต้องหมดวาระลง จึงไม่ควรประมาท เพราะการเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ และว่า เส้นทางที่ นายทักษิณ เลือกเดินโดยไม่ยอมติดคุกสักวันเป็นสิ่งไม่ชอบธรรม เป็นเส้นทางตรงข้ามกับความยุติธรรม การสร้างอนาคตทางการเมืองจึงลำบาก ยกเว้นถูกปิดกิจการเสียก่อน (จตุพร+ทักษิณ+
ที่ก็สอดคล้องกับบางฝ่ายที่มีการประเมินเช่นกันว่าในมุมของคนเพื่อไทยมองว่า “ทักษิณ” คือผู้นำจิตวิญญาณที่สามารถปลุกขวัญกำลังใจทำให้ต้องมีภาพการออกมาแบบเจ้าของพรรคตัวจริงนายกฯตัวจริงมาแล้วจากนี้เศรษฐกิจจะดีกว่าที่“นายกฯเศรษฐา” บริหารอยู่ที่ยังไม่มีอะไรจับต้องได้มาก จึงมีการประโคมข่าว
โดยไม่สนว่าเป็นการเรียกทัวร์มาลงอย่างภาพที่ปรากฏจนถูกตั้งคำถามไหนว่าป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ตามที่เคยอ้างในการอยู่ชั้น14 ที่ ใน “มุมกลับ” การกลับมาตั้งแต่วันที่22ส.ค.แล้วเกิดการ “พลิกขั้ว” กระทั่งมาถึงวันกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า 18ก.พ.โดยไม่ติดคุกสักวันเดียว ก็อาจกลายเป็นผลลบยกกำลัง 2ที่จะเกิดเป็นเอฟเฟ็กต์ต่อไปได้เช่นกัน. (ทักษิณ+นายก)
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews