รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ทำงานมาแล้วกว่า 6 เดือน นายกรัฐมนตรี จะแถลงผลงาน หลังเดินทางกลับจากเยือนยุโรป ว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำอะไร เพื่อพี่น้องประชาชนไปแล้วบ้าง หลังจากแถลงผลงาน 30 วัน 60 วัน และโชว์วิสัยทัศน์ ในโอกาสต่างๆ มาแล้วหลายรอบ ว่าจะทำอะไร แต่กับนโยบายเรือธง ที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะทำทันที ทั้ง ดิจิทัลวอลเล็ต แจก 1 หมื่น กับประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไปไม่ถึงไหนเลย
โดยที่ผลงานเด่นชิ้นโบว์แดงกลับเป็น การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ “ทักษิณ ชินวัตร”ได้กลับบ้านแบบเท่ๆ ไม่ต้องนอนคุกแม้แต่วันเดียว นับจากกลับไทยในวันโหวต “เศรษฐา” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จนเป็นที่มาให้ 98 สว.ที่ไม่เคยใช้สิทธิ์อภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 153 เลย ตลอด 4 ปี ในยุคของ”ลุงตู่” ต้องยื่นขอเปิดอภิปรายรัฐบาลเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ และได้กำหนดวัน แบ่งเวลากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 25 มี.ค.นี้ ก่อนจะพ้นวาระในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ซึ่งสาระหลัก ประเด็นสำคัญ ที่ บรรดา สว.ผู้ทรงเกียรติ เคลือบแคลงสงสัยต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล คือเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มันบิดเบี้ยว จากกรณี”ทักษิณ” ที่ระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหญ่กว่าคำตัดสินของศาล ได้รับการพักโทษ ทั้งๆที่ไม่ได้รับโทษในเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียว กับอีกประเด็น คือนโยบายดิจิทัลวอลเลต ที่ไม่ตรงปก กับตอนหาเสียง ปรับสัดส่วนคนที่จะได้รับ และที่มาของเงินที่จะแจก จนเป็นข้อถกเถียงเป็นวงกว้างในสังคม นักวิชาการ นักการเงิน หรือแม้แต่อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ ที่แสดงความเป็นห่วงว่าอาจขัดวินัยการเงินการคลัง รวมถึงประเด็นสังคมอื่นๆ ทั้งเรื่องปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด เป็นต้น
ไม่เพียงแต่ ส.ว.เท่านั้น ที่ยื่นอภิปรายรัฐบาล ฝ่ายค้านที่นำโดยก้าวไกล ก็ตัดสินใจ ใช้มาตรา 152 ยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติด้วยเช่นกัน โดยจะยื่นเป็นทางการในสัปดาห์หน้าหลังถูกจับตา ว่าจะมีซูเอี๋ย กันระหว่าง เพื่อไทย และก้าวไกลหรือไม่ เพราะตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา แม้รัฐบาลจะมีแผลใหญ่ให้เห็น และก้าวไกลก็จับประเด็นความเท่าเทียมมาโดยตลอด แต่กลับมีสัญญาณการผูกมิตรทอดสะพานกันมากกว่าที่จะฟาดฟันเชือดเฉือนกันในประเด็น”ทักษิณ”
ส่วนการอภิปรายคาดว่าอาจจะได้ปทะฝีปากกันในช่วงต้นเดือนเม.ย. ก่อนปิดสมัยประชุม โดยที่ประเด็นหลัก ที่จะถูกหยิบยกมาอภิปรายก็คงหนีไม่พ้นดิจิทัลวอลเลต, พักโทษ”ทักษิณ”, ปัญหาที่ดิน สปก.ทับซ้อนพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ นโยบายปราบมาเพีย ผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน หรือแม้แต่เรื่องยาเสพติด ที่กำหนด 5 เม็ดเป็นเพียงผู้ป่วยต้องนำไปบำบัด และประเด็นอื่นๆ ที่ฝ่ายค้านสงสัย หรือมีความไม่ชอบมาพากล สุ่มเสี่ยงเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและเทศชาติ จึงน่าสนใจว่า การอภิปรายทั่วไป ของ ส.ว.ในช่วงปลายเดือนนี้ กับการซักฟอกของ ส.ส.ฝ่ายค้าน
ในช่วงต้นเดือนหน้า หมัดของใคร จะมีทีเด็ดถึงขั้นน็อค หรือเปิดแผลสร้างรอยร้าวให้รัฐบาลของ”เศรษฐา” ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะลำพังยังไม่ถึงวันอภิปรายก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ข่าวลือข่าวปล่อย เปลี่ยนตัวนายกฯ หรือปรับครม.อยู่เกือบจะตลอดเวลา ดังนั้น หลัง พรบ.งบประมาณวาระ 2 และ 3 เข้าสู่การพิจารณา ต่อด้วย สว. และฝ่ายค้าน ต่อคิวกันซักฟอกก็น่าลุ้นไม่น้อย ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ หรือไม่…..
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews