สว.พร้อมฟอก-เศรษฐาสอบตก
ยิ่งงวดใกล้ศึก “ทิ้งทวนสว.”ซักฟอกรัฐบาล ปลายเดือน (25มี.ค.) แม้จะมี “ศึกพิจารณางบประมาณ67วาระ2-3” ปลายสัปดาห์หน้า 21-22 มี.ค. คั่น ถัดจากนั้น เว้นให้รัฐบาลมีเวลาหายใจหายคอ ไปอีก 1 สัปดาห์ จึงถึงคิว “ฝ่ายค้าน” เปิดศึกซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงติ ต้นเดือนเม.ย.ก่อนสงกรานต์ กระนั้น ก็อดไม่ได้ ที่สว.ชุดปัจจุบันที่ จะหมดวาร 11พ.ค.67 โดยเฉพาะบรรดา “สว.ตัวตึง”ที่ถือว่ามี “บทบาท”ในการ “เปิดหัว”ตรวจสอบ “รัฐบาลเศรษฐา”อดไม่ได้ ที่จะต้องออกมา “บิ๊วอารมณ์”โหมโรง ให้สังคมทำการ”โฟกัสเป้า”ประเด็นที่ สว.เตรียมซักฟอกรัฐบาลตามที่รู้กันอยู่แต่ต้น ว่า มี 7 ประเด็น แต่ “ไฮไลท์2เรื่อง”คือ 1.โครงการดิจิทัลวอเล็ต 2.กระบวนการยุติธรรมกรณี “ทักษิณ”
อย่างที่ “สว.กิตติศักดิ์”ออกมา “จั่วหัว”วันนี้(11มี.ค.)ว่า สว.ที่เข้าชื่ออภิปราย 36 คน “พร้อมมาก”ที่จะอภิปรายในสัดส่วน12ชม. โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ “ทักษิณ”ที่มีเยอะไม่ทราบว่าคนที่อภิปรายจะกลัว “ทักษิณ”ฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าทุกคนต้องพร้อม ตนก็พร้อมมาก ยิ่ง กรณี “ทักษิณ” จะไปจังหวัดเชียงใหม่ 14-16 มี.ค. ตนบอกแล้วว่านายทักษิณคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก การที่ไปไหนมาไหนได้ ไม่ทราบว่าไปตกลงกับใคร แต่ในฐานะที่เป็นผู้แทนฯก็ต้องเอาเรื่องจริงมาบอกประชาชน ส่วน “นายก”จะเดินทางไปในช่วงเวลาเดียวกัน ความบังเอิญเกิดขึ้นได้ แต่ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจและวางแผนไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เห็นใจ “เศรษฐา” ที่ตระเวนไปรอบโลกแต่สื่อและประชาชนก็เห็นว่าเอาแก่นสารสาระไม่ค่อยจะได้ เป็นประโยชน์อะไร ในการใช้งบประมาณเดินทางไปรอบโลก แต่ผลงานจับต้องไม่ได้ ส่วนที่จะมีกองเชียร์คอยรอต้อนรับ “ทักษิณ”ที่เชียงใหม่เป็นเรื่องธรรมดา ที่ทั้งคู่มีFC ไปต้อนรับ แต่ส่วนคนมีตำแหน่งที่ไปนั้นมีความละอายใจ และเหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ต้องคิดและพิจารณา ก่อนเตือนว่า หาก “ยิ่งลักษณ์”กลับมาโดยใช้โมเดลรับโทษแบบ “ทักษิณ”ให้ระวังจะเป็น “ฟางเส้นสุดท้ายประเทศไทย” อะไรจะเกิดไม่ทรายแต่มองว่าควรหยุดควรพอที่ “ทักษิณ”เพราะความอดทนผู้คนจะสิ้นสุด โดยสิ่งที่ตนห่วง คือเรื่อง
“ความขัดแย้ง” ที่”นายทักษิณ” เป็นต้นตอ
เช่นเดียวกับ “สว.สมชาย”ที่ออกมา “บิ๊ว”การตรวจสอบจับผิด “นายกฯเศรษฐา”ตั้งแต่เมื่อวาน(10มี.ค.)ไม่ว่าจะเป็นการเสียดเย้ยว่า “ทุบสถิติโล”เป็นนายกฯ6 เดือน บิน 16 ประเทศ 52 วันใน 176 วัน คือเป็น 30%ของการทำงาน หรือ การ “ตัดเกรด” ว่า 6 เดือนรัฐบาลเศรษฐาสอบตกทุกข้อจาก10ข้อ โดยอ้างอิงถึงสิ่งที่ “เศรษฐา”นำครม.แภลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ตั้งแต่ 11ก.ย.66 ว่าจะใช้ความรู้ความสามารถตามหน้าที่และอำนาจที่ได้รับมอบหมายไปทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกิดผลสำเร็จต่อประเทศชาติ ที่หากถาม 6 เดือน มีนโยบายเร่งด่วนใดบ้างที่ประสบความสำเร็จบ้าง
คำตอบคือ “ไม่มี” ไม่ว่าจะเป็น นโยบายกู้ 5 แสนล้านมาแจกเป็นเงิน ดิจิทัลคนละ 1 หมื่น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งเสี่ยงผิดกฎหมาย และไม่กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงจัง เป็นความเสี่ยงที่ได้ไม่คุ้มเสีย ท้ายที่สุดคงต้องยกเลิกโครงการ -การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรและประชาชนซึ่งเป็นปัญหาสะสมและซับซ้อนเป็นเรื่องยากต้องใช้เวลานาน
การแก้ปัญหาพลังงานเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราว ด้วยการควบคุมราคายังไม่ได้แก้ปัญหาโครงสร้างพลังงานทั้งระบบและโดยเฉพาะการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เห็นผลเป็นภาพลบที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากที่สุด ในกรณีใช้อำนาจบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และโรงพยาบาลตำรวจ กรณีนักโทษเด็ดขาดนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี จนประชาชนเสื่อมศรัทธาและขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย
โดย “สว.สมชาย”ยัง สรุปด้วย ว่า จากการประเมินผลงานรัฐบาล6เดือนโดยพิจารณาตรวจดูจากการทำงานในประเทศ การเดินทางไปราชการในประเทศและ การเดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดในบรรดานายกรัฐมนตรีไทยที่เคยมีมา 6 เดือน 16 ประเทศโดยเทียบจากคำแถลงนโยบายเร่งด่วนทั้ง10ข้อ แล้วท่านใดจะประเมินผลงานอย่างไรนั้นไม่ขอก้าวล่วงแต่ความเห็นส่วนตัวนั้นได้พิจารณาแล้วขอให้คะแนนสอบตกทุกข้อ
ที่ก็สอดรับกับ “เทพไท เสนพงศ์”อดีตส.ส.เมืองคอนฯที่ออกมาร่วมด้วยช่วยเหน็บเปรียบการทำงานของ “เศรษฐา” เหมือนแมลงวันบินทั้งวันแต่ไร้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เรียกร้องให้ “ฝ่ายค้าน”ตรวจสอบโดยการ “ซักฟอก” ว่ารัฐบาลทำงานได้จริงสมคำโฆษณาหรือไม่ หรือเหมือนศัพท์วัยรุ่นรถซิ่งที่ว่า “ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน”
เรียกว่าบรรยากาศการ “บิ๊วอารมณ์”การตรวจสอบของสังคมของบรรดา “สว.ตัวตึง”ส่วนหนึ่งถูกจับตา การมาเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ ทั้งที่จะมีการพิจารณางบประมาณในสภาฯ21-22มี.ค.ที่ทางการเมืองถือเป็นอีกจังหวะที่ “ฝ่ายค้าน”จะมีการซ้อมใหญ่ การ”ซักฟอกรัฐบาล” ที่ก็ล้อกันไปกับภาพความเคลื่อนไหว “คู่ขนาน”ทั้งความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ”ที่จะไปเชียงใหม่เพื่อไหว้บรรพบุรุษ 14-15 มี.ค. ซึ่งมีข่าวอาจมีการพบกับ “เศรษฐา”ที่อยู่ในช่วงระหว่างมีการประชุม ครม.สัญจร จ.พะเยา โดยจะมีการแถลงนโยบาย 6เดือนก่อน วันที่ 15มี.ค.และหลังจากนั้นจะมีคิว บอร์ดดิจิทัลวอเล็ต จะสรุปทำได้ไม่ได้ วันที่17มี.ค.เพื่อส่งเรื่องเข้าครม.ต่อไป ในขณะที่ ภาพของ
“ฝ่ายค้าน”ที่นำโดย “ก้าวไกล”นั้น ก็ถูกจับตาการทำหน้าที่ตรวจสอบ หลังถูกครหา “เกี๊ยะเซี๊ยะ”กับ “รัฐบาลเพื่อไทย” จากท่าทีลังเลการยื่นซักฟอก ก่อนหน้านี้ จนมาถึงล่าสุด กับท่าที ในการตรวจสอบงบประมาณฝ่ายกองทัพ ที่มีความพยายาม “จับผิด”ท่าทีที่โอเคกับการชี้แจงของกองทัพ ของ “วิโรจน์”ประธานกรรมาธิการทหารจากก้าวไกล ว่าจะไปในทิศทางเดียวกับท่าทีของ “ต๋อม-ชัยธวัช”ผู้นำฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews