ความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาวันนี้”สว.เสรี สุวรรณภานนท์“ ระบุสมาชิกวุฒิสภาลงชื่ออภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 153 จำนวน 27 คน ภายใต้กรอบการอภิปราย 7 ประเด็น พร้อมเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีอาจไม่มาชี้แจง
จึงหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะจะกระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลและถือเป็นเรื่องที่ประหลาด ขณะเดียวกัน ประธานวิปฝ่ายค้านยืนยันความพร้อมในการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณ ปี 67 หลังพบหลายโครงการในกระทรวงกลาโหมไม่คุ้มค่าและไม่โปร่งใส
โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในวันที่ 25 มีนาคมนี้ว่า สมาชิกวุฒิสภาได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยกำหนดเวลาไว้ 11 ชั่วโมง ซึ่งฝ่าย สว.อยากได้เวลา 2 วัน ในการอภิปราย แต่รัฐบาลให้เวลาเพียงวันเดียว
โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจมาก ไม่มีเวลา ขณะทางฝั่ง สว. ต้องการอภิปราย เพื่อให้รัฐบาลเห็นปัญหาและนำไปแก้ไข ซึ่งจากเวลาที่จำกัด ทำให้จัดสรร สว. 27 คน ในการอภิปราย พร้อมกำหนดการอภิปรายทั้งหมด 7 ประเด็นใหญ่ที่เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้รัฐบาลนำปัญหาเหล่านี้ไปดำเนินแก้ไขโดยด่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ การอภิปรายนี้ เพื่อส่งสัญญาณให้นายกฯ ได้ยินว่า วันที่ 25 มีนาคมนี้ มีการอภิปราย เพราะมีฝ่ายรัฐบาลบอกว่า นายกฯ จะไม่มาประชุม ซึ่งตนเอง และ สว. ก็หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ถ้านายกฯไม่มาอาจจะทำให้การแก้ปัญหาไม่สำเร็จลุล่วง ซึ่งการมาของรัฐบาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ต้องมาเป็นคณะไม่ใช่มาเพียงแค่คนสองคน แบบขอไปที ให้ผ่านๆไป ซึ่งต้องบอกไว้ล่วงหน้า
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต่อว่าในสภา หรือเกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อรัฐบาลและหากไม่มาก็มองว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด จะด้วยเหตุใดก็ตามก็ต้องชัดเจน ไม่เช่นนั้น คนจะมองว่านายกฯ หลบ และจะเสียหาย ซึ่งไม่ควรทำ
นอกจากนี้ นายเสรี ยืนยันว่า การอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา จะมีประเด็นนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการพักโทษ โดยอยู่ในประเด็นกระบวนการยุติธรรมด้วย
ขณะเดียวกัน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระ 2 และ วาระ 3 ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ว่า หากย้อนกลับไปดูการพิจารณางบประมาณของพรรคก้าวไกลในสมัยที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นคณะกรรมาธิการงบประมาณ
พบว่า บางโครงการไม่ถูกต้อง ต้องมีการปรับลดงบประมาณ แต่ไม่สามารถตัดลดได้สำเร็จ ก็จะนำความผิดปกติของโครงการเหล่านั้น มาอภิปรายในวาระ2 เพื่อขอให้สภาพิจารณาตัดลด ซึ่งการพิจารณาในวาระที่2 พยายามเจาะจงเป็นรายกระทรวง และรายโครงการ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการอภิปราย โดยนายประกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้มี สส.ฝ่ายค้าน ลงชื่ออภิปรายค่อนข้างมาก และคาดว่าจะมีเพิ่มอีก
ทั้งนี้ หากพูดถึงเรื่องความไม่คุ้มค่า ในแต่ละกระทรวงมีทุกโครงการ ที่มองว่า ไม่คุ้มค่า ไม่เหมาะสม คือกระทรวงกลาโหม ก็จะมีปัญหาในเรื่องนี้ เนื่องจากมีเอกสารลับเยอะ และทุกครั้งได้มีการขอเอกสารลับแต่ไม่ได้ เช่น การจัดซื้อที่แพงกว่าท้องตลาดทั่วไป
ดังนั้น จึงขอฝากไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยตนคิดว่า งบ 68 เป็นปีงบที่นายกฯ และรัฐบาลจะมีอำนาจเต็ม เวลาที่จะจัดทำค่อนข้างนานพอสมควรจึงขอให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews