วันนี้ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท 22 นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ และ นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมเปิดเส้นทางการเงินสำคัญ เชื่อมโยงนายตํารวจระดับสูงและครอบครัวรวมถึงกองบัญชาการที่รับผิดชอบโดยตรงกับเว็บพนันออนไลน์
โดยนายวราชันย์ กล่าวว่า เรื่องแรกคือใบอนุโมทนาบัตรชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ตรวจยึดได้ขณะเข้าจับกุม พ.ต.ท.คริษฐ์ จนมีการเชื่อมโยงว่าเป็นการทำบุญผ่านบัญชีม้าจํานวน 200,000 บาทนั้น แท้จริงแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่โอนเงินนจํานวน 200,000 บาททำบุญดังกล่าว เป็นบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ถืออยู่
ซึ่งมีการโอนเงินเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 โดยได้มาจาก น.ส.หลุยส์ ที่ร่วมบริจาคเงินทําบุญกับวัด ส่วนเงินบริจาคทําบุญของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นประเด็นนั้น เป็นการถวายเงินสดร่วมทําบุญจํานวน 200,000 บาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 65 ด้วยตัวเอง ที่วัดศาลาปูนจ.พระนครศรีอยุธา ส่วนกรณีการซื้อตั๋วเครื่องบินที่มีการอ้างว่าเป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตั๋วเครื่องบินดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.คริษฐ์และครอบครัว โดยบินจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ ไม่ใช่การซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายณัฐวิชช์ ได้เปิดเผยผังเส้นทางการโอนเงินจากบัญชีของ น.ส.พิมพ์วิไล ผู้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ BNKMaster ที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นๆ รวม 34 เส้น ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าราชการตํารวจ แต่เหตุใดแต่กลับมีการดําเนินคดีเพียงบางส่วนเท่านั้น จึงมองว่าเป็น “อินทรีเลือกเหยื่อหรือไม่”
โดยหลังจากนี้ทางทีมทนายความจะนำรายชื่อของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดไปยื่นให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ , ป.ป.ช. , ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางไปตามหมายเรียกในวันที่ 21 มีนาคมนี้หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ
พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตํารวจนครบาล 1 ใน 8 ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ที่ถูกดําเนินคดีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์มินนี่ กล่าวแถลงข่าวเพิ่มเติมหลังทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จบลงว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์ คือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้บัญชีของบุคคลอื่นมากถึง 6 บัญชี ซึ่งข้อเท็จจริงได้ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของ สน.ทุ่งมหาเมฆแล้วทั้งสิ้น รวมทั้งมีการสอบเจ้าของบัญชีแล้ว แต่กลับมีการนำข้อเท็จจริงเรื่องสบคบฟอกเงินมาเป็นอีกคดี เนื่องจากเป็นการโอนเงินในห้วงเวลาเดียวกัน
โดย พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวถึงแผนผังเส้นทางการเงินจํานวน 34 เส้นที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตํารวจด้วยว่า ข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการประสานกับทีมทนายความของ น.ส.พิมพ์วิไล ซึ่งจากการตรวจสอบพบเส้นทางการเงินโยงไปยังเครือญาติของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยศนายพล “ต” ซึ่งเป็นเส้นทางการเงินที่มีการทําธุรกรรม แต่ไม่ได้หมายความมีการกระทําความผิด ส่วนมูลเหตุจูงใจที่ตนเองกับพวกถูกดําเนินคดีนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าเกิดจากการทํางานร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในคดีอดีตผู้การชลบุรี 140 ล้าน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนเองกับมินนี่ไม่เคยรู้จักหรือมีความเกี่ยวข้องกันมาก่อนและจะรับเงินมาได้อย่างไร ส่วนการออกมาแถลงข่าวต่อสื่อในวันนี้ จะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นตนพร้อมที่จะยอมรับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews