กลายเป็น “กลบทุกข่าวการเมือง”ที่กำลังพันตู “รัฐบาลเพื่อไทย”กับหลายเรื่องทั้งการบ้าน และ การเมือง กับคำสั่งด่วนของ”นายกเศรษฐา” ในฐานะดูแลตำรวจ ให้เด้งทั้ง “บิ๊กต่อ”พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เข้ากรุทำเนียบฯช่วยงานสำนักนายกฯ 60วัน
ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงปัญหา “ศึกกรมปทุมวัน”ที่ขัดแย้งตอบโต้กันไปมาระยะหนึ่งแล้วกับปมออกอาวุธหนักทุกท่วงท่าในการใช้การกล่าวหาดำเนินคดี เตะตัดขาช่วงชิงอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างฝ่าย “บิ๊กเต่า”ตำรวจสาย ผบ.ตร.กับ “บิ๊กโจ๊ก” โดยล่าสุดวันนี้ มีภาพ ทั้ง”บิ๊กต่อ”กับ “บิ๊กโจ๊ก”จะมาร่วมแถลงข่าว “จูบปาก”ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทั้งคู่ ก่อนจะมี “คำสั่งด่วน”ออกมาจาก “นายกเศรษฐา”
ที่ต้องไม่ลืมว่า “ตัวละคร”ทั้ง”บิ๊กต่อ” “บิ๊กโจ๊ก”นั้น นอกจากจะถูกมองว่ามี “แบล็กอัพ”ในทางการเมืองจาก “ฝ่ายอำนาจ”ที่ให้การสนับสนุนผลักดัน ยังเคยเป็น “คู่ชิง” หนึ่งในบรรดา “แคนดิเดต” ผบ.ตร. รอบที่ผ่านมาซึ่งเคาะสรุป “บิ๊กต่อ”ได้เป็นผบ.ตร. ที่ก่อนหน้าจะมีการเคาะ ก็เกิดเหตุมี ชุดตำรวจอาวุธครบมือ ไปบุกค้นบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” ในขณะที่ก่อนหน้านั้น “บิ๊กโจ๊ก”เคยเข้าไปทำคดี ยิงตำรวจในบ้าน”กำนันนก” ที่ถูกระบุมีการโยงตำรวจหลายนายในสาย “บิ๊กตำรวจ”เข้าไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์
น่าสนใจที่ “คำสั่งด่วนนายกฯ”เด้ง 2 บิ๊กตำรวจ งวดนี้ ถูกมองมาในจังหวะเหมาะเหม็งที่การเมืองใหญ่ รัฐบาล กำลังมีคิวถูกตรวจสอบในสภาอยู่ 3 คิว ทั้ง “ศึกงบประมาณวาระ2-3” วันนี้ และ “ศึกซักฟอกรัฐบาลโดยสว.”วันที่ 25มี.ค.และ “ศึกซักฟอกของโดย ส.ส.” 3-4เม.ย.ที่ส่วนหนึ่งทำให้ มีการเขยิบเลื่อนการเคาะโครงการดิจิทัลวอเล็ตที่ได้ข้อสรุปมาวันที่ 17 มี.ค.ออกไปยาวๆที่ก็เช่นเดียวกับ “เอฟเฟ็กต์”ที่ถูกตีความผ่านความเคลื่อนไหวของ “นายทักษิณ”
อันถูกโยงความเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของ “นายกฯเศรษฐา”รัฐมนตรีและบรรดา ส.ส. นักการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่จ.เชียงใหม่ ที่ส่งผลสะท้อนออกมาเป็นข่าว “การปรับครม.
“เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการปัญหา “วิกฤติเศรษฐกิจ”ของ “รัฐบาลเพื่อไทย”ที่ “นายทักษิณ”บอกว่ารอบนี้รุนแรงเท่ากับ “ต้มยำกุ้งปี40″โดยมีข่าว “เศรษฐา”อาจลุกจากเก้าอี้ “รมว.คลัง”ที่นั่งควบไว้ ให้ “มือดี”ใกล้ๆ ตัวมาดูแทน ขณะเดียวกันก็น่าสนใจกับ “นัยความหมาย”ที่ “นายทักษิณ”ส่งผ่านออกมา ผ่านคำ
“รู้ว่ามีคนไม่ชอบ แต่ขอให้ต่างคนต่างอยู่กัน” ที่บางคนมองไปที่ “โจทก์เก่า”ใน กลุ่มพันธมิตร กปปส. ที่ประกาศเป็น “ศัตรูตลอดกาล”กับ “ทักษิณ”ที่หลายคนออกมาวิจารณ์ การ “ปิ๊กเชียงใหม่”
แบบชิลๆ เหมือนไม่ได้เป็น “นักโทษ”ของ “ทักษิณ” และ กลุ่มพรรคเด็ก ปีก “ก้าวไกล”ที่ปรากฏผ่านภาพ “พิธา” ที่บินไป “วัดพลัง” กับ “นายทักษิณ”ที่จ.เชียงใหม่ ที่ทำท่าว่า ทั้งกลุ่ม คปท.และ ก้าวไกล ไม่นับรวม สว. จะจี้เอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์กรณี “ทักษิณ”ในขณะที่บางส่วน มองไปถึงการส่งสัญญาณถึง “เศรษฐา” ที่ถูกมองว่า “ขาลอย” มีแนวโน้ม “โฮมอโลน” ในทุกเวที “กับดัก” ข้างหน้า จนมีภาพความพยายาม
“หลังพิง”ศูนย์อำนาจบ้านจันทร์ส่องหล้า”ทั้งการไปที่บ้านแบบเปิดเผยกับสื่อ และ ไปโผล่ในวง “นายกฯ2-3คน” คือ “ทักษิณ-สมชาย-เศรษฐา”ตามคำเชิญของ “สมชาย” อดีตนายกฯ น้องเขย ของ”นายทักษิณ”ที่จ.เชียงใหม่
ทำให้ทั้งหมดถูกมองต่อภาพมาถึง การใช้อำนาจ “นายกฯ” ของ “เศรษฐา” กับกรณีจัดการปัญหา “ศึกปทุมวัน”ระหว่าง 2 บิ๊กตำรวจ เหมือนเป็นการ “ปล่อยแสง”โชว์ว่ายังมีตัวตนมีอำนาจอยู่บ้าง หลังจากที่เคยถูกวิจารณ์ผลงาน 6 เดือน ไม่เป็นชิ้นอันเพราะถูก โครงสร้างของระบบราชการ ที่ถือเป็น “ฐานเดิม”ของ “กลุ่มอำนาจเก่า”ที่เป็น “รัฐราชการ”สกัดในทุกดอก
โดยเฉพาะที่ถูกมองเด่นชัดผ่าน กรณีโครงการ กู้มาแจกดิจิทัลวอเล็ต เพื่อแก้โจทย์วิกฤติเศรษฐกิจที่ถูกไม่เห็นด้วยและสกัด จากทั้ง”ข้าราชการ” “องค์กรอิสระ”และ “สว.” รวมถึง แก้ครหา กับภาพ “อดีตนายกฯทักษิณ”ที่แม้จะบอกว่า “ต่างคนต่างอยู่” แต่ก็ยัง “โชว์พาว”ให้เห็น ว่า “ศูนย์อำนาจ”เบื้องหลังรัฐบาลเพื่อไทย มีอยู่จริง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews