ฉากต่อเนื่อง จากการปลดฟ้าผ่า “ย้าย 2 บิ๊กตำรวจ” ทั้งผบ.ตร.และ รอง ผบ.ตร. เข้ากรุทำเนียบฯ ถือเป็นครั้งแรกของ “รัฐบาลเศรษฐา” ในการใช้ “อำนาจ” จัดการปัญหาความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ที่ทำท่าว่าจะกลายเป็น “ไฟลามทุ่ง” ด้วยการ สั่งย้าย “คู่กรณี” ทั้ง “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊ก” รอง ผบ.ตร. เข้ามายังทำเนียบรัฐบาล และตั้งกรรมการตรวจสอบเพื่อสรุป
อย่างที่ “นายกฯเศรษฐา”ที่วันนี้(21มี.ค.)ไปประชุม ก.ตร. ก็ยอมรับ เป็นเรื่องยากที่ต้องเซ็นให้ทั้ง 2 บิ๊กตำรวจ ย้ายไปทำงานสำนักงานนายกรัฐมนตรี และลำบากใจ ไม่สบายใจ แต่ต้องทำ ในขณะที่ทั้ง “บิ๊กต่อ” และ “บิ๊กโจ๊ก” ที่วันนี้ เข้ารายงานตัวสำนักนายกฯ ยืนยัน ไม่เครียด โดย ผบ.ตร. บอก รู้มานานแล้ว ก่อนเปรยดังโรงละครของเราเลิก เก็บฉากหอบเสื่อกลับบ้าน ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” รีบ แจงกรณีโผล่ไปตาม “ทักษิณ” ที่จ.เชียงใหม่วันก่อนทำตามหน้าที่ ไม่มีส่วนตัว
น่าสนใจว่า นอกจากหลายฝ่ายจะมองในทิศทางเดียวกันว่า การ “เด้ง2บิ๊กตำรวจ” มีทั้ง “นัยยะทางการเมือง” และ “นัยยะการบริหารอำนาจ” ของรัฐบาลในการทำงานกับ “ข้าราชการ” ที่เพิ่งเปลี่ยนจาก ยุค “รัฐบาลลุงตู่” ที่รู้กันดีอยู่ว่านอกจากจุดยืนแนวคิดคือ “กลุ่มอนุรักษ์นิยม” ยังเป็น “รัฐราชการ” ที่ “ผู้นำ” ทั้ง 3 ลุง ป.ปลา “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจาก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” 22พ.ค.57 และเป็น “รัฐบาล” แบบยาวๆมา8-9ปี ย่อมหยั่งรากฝั่งลึกกว่าสภาพการณ์ปกติ
ที่แน่นอน “รัฐบาลเพื่อไทย” โดย “เศรษฐา” เป็นนายกฯ ย่อมถูกมองว่า “มีความเข็ด” และระวังอยู่บ้างกับการไป “ล้อเล่นกับระบบ” เพราะ เพื่อไทย เคยมี “อดีตฝั่งใจ” กับการจัดการ “ข้าราชการ” เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล และโดน “ตอบโต้” ตั้งแต่สมัย “รัฐบาลพี่” (ทักษิณ) จนถึง “รัฐบาลน้อง” (ยิ่งลักษณ์) ที่โดนกองทัพ “ยึดอำนาจ” ทั้งคู่ในปี2549 และ 2557 อันมีเหตุไปสร้างความไม่พอใจให้กับข้าราชการเป็นส่วนหนึ่งนอกจากประเด็นถูกกล่าวหากทุจริต
ที่อย่าลืมว่า “เศรษฐา” เข้ามา 6 เดือน มีเคสที่เห็นชัดในการย้ายข้าราชการคือ เด้งอธิบดีDSI จากปมทำคดี “หมูเถื่อน” นอกนั้นแม้มีการปะทะกันผ่านสื่อระหว่างกรมระหว่างรัฐมนตรีก็ยังไม่ถึงขั้นมีการย้ายใคร ทำให้หนนี้ถูกมองว่าเป็นการ “ปล่อยแสงอำนาจ” ของ “เศรษฐา” ในการจัดการปัญหากรมปทุมวัน แม้ลึกๆจะถูกมองว่าย่อมมีมือที่มองไม่เห็น
จากผู้มีบารมีนอกรัฐบาลอย่าง “ทักษิณ” อาจอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำหรือไม่ โดยบางฝ่ายมองไปถึงว่าอาจเกี่ยวกับทั้ง “เดดไลน์” คดี112ของ “ทักษิณ” วันที่ 10เม.ย.และ “เดดไลน์” ของสว.250 ที่มีคิว “ซักฟอกรัฐบาล” วันจันทร์(25มี.ค.) เป็นการ “ทิ้งทวน” ก่อนหมดอายุ 11 พ.ค. ในขณะบางฝ่ายมองไปถึงการ “ทะลวงจุด” ในการใช้อำนาจของ “รัฐบาล” ที่ทราบกันดีว่า “นโยบายเรือธง-ดิจิทัลวอเล็ต” ถูกเตะตัดสกัดยืดเยื้อจากใคร ถึงขนาดเคยมีการปล่อยข่าวจะมีการย้าย “หัวหน้าส่วนราชการ” หน่วยงานเศรษฐกิจที่ไม่เห็นด้วยมาแล้ว
ที่ปมการใช้ “อำนาจ” ของนายกฯ ที่ถูกมองเชื่อม “ทักษิณ” เพราะภาพ “นายก2-3คน” ที่จ.เชียงใหม่ และ ที่ บ้านจันทร์ส่องหล้าจนถูก “ฟากฝั่ง” ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ออกมาเคลื่อนไหวจะเอาผิดกับ “ข้าราชการ” หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ที่ปล่อยให้ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวเกินไปจาก ความเป็น “นักโทษ” ที่ยังเหลือเวลารับโทษอีก 6 เดือน ทั้งในมิติการแสดงออกกับมวลชน และมิติการถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการสั่งการทางการเมือง แม้กระทั่ง “การบ้าน” และ “การเมือง” ที่ปีกหนึ่งอยู่ที่ทำเนียบฯผ่าน “นายกฯเศรษฐา” ปีกหนึ่งอยู่ที่พรรคเพื่อไทยผ่าน “ลูกสาวอุ๊งอิ๊งค์” อย่างที่มีข่าว “การปรับครม.” ที่จะมีขึ้นต้นเดือน เม.ย.
แน่นอน กระแสเคลื่อนไหว และการเข้ามาเกี่ยวข้องของ “นายทักษิณ”ด้านหนึ่ง แม้จะถูกมองว่าถูกยกให้เป็น “ศูนย์หน้าฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่” ในการสกัดพรรคเด็กก้าวไกล แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ปรากฎความกังวลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม กลุ่มอำนาจเดิม ว่า จะควบคุมไม่ได้ และมีโอกาสที่เพื่อไทยจะไปแตะกับ “พรรคเด็ก” หลังจาก “สว.” หมดอายุ ทำให้มีความพยามล็อค “นายทักษิณ” ไว้เป็นตัวประกัน ด้วยคดี112อีกปม และด้วยเสียงบ่นไม่พอใจ ทำท่าว่าจะกดดันให้เมีการตรวจสอบ ให้มีการทบทวน “การพักโทษ”
ทำให้ “ทักษิณ” ออกมาเปรย “ไม่ชอบหน้ากัน ก็ต่างคนต่างอยู่” ทำให้ “นักวิชาการ” ปีก “อนุรักษ์” อย่าง “อ.เสรี วงศ์มณฑา” โพสต์FBวันก่อน(18มี.ค.)ทำนองก็ไม่อยากยุ่งกับคูร อยากต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกันแต่ยังต้องยุ่งกับคุณ ทั้งๆที่ไม่ชอบเพราะคุณมายุ่งกับบ้านเมืองของเรา ทำกระบวนการยุติธรรมมีปัญหา โดยมีคนช่วย จึงไม่อาจมองข้ามคุณได้ ถ้าคุณหยุดพวกเราจะไม่สนใจอะไรไม่ด่าไม่ว่าจะได้ต่างคนต่างอยู่ จนผู้คนในเพื่อไทยต้องออกมาโต้แทน อย่างที่เห็น “จิรพงษ์” อดีตส.ส.นนท์ฯเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้ “ฝ่ายตรงข้าม” หยุดกลัว “ทักษิณ” ได้แล้ว เพราะเชื่อว่า “นายทักษิณ” อดีตนายกฯจะมีคำแนะนำดีๆ ช่วยแก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews