25มีนาคมนี้ คือกำหนดวันอภิปรายทั่วไป มาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิภาพ เพื่อเสนอแนะ หรือสะท้อนปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
ซึ่งเกิพขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ให้อำนาจ ส.ว.เอาไว้ และอาจเป็นครั้งสุดท้ายของ ส.ว.ชุดปัจจุบัน เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนเศษ ก็จะครบวาระ 5 ปีแล้ว โดยการยื่นญัติมี สว.ร่วมลงชื่อถึง 98 คน ที่ต้องเสนอแนะต่อรัฐบาล “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” หลังบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วถึง 6 เดือน
โดยมี 7 ประเด็นประกอบด้วย ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชน,ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย,ปัญหาด้านพลังงาน,ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม,ปัญหาด้านการต่างประเทศและท่องเที่ยว,ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปัญหาการปฏิรูปประเทศ โดยทั้ง 7 ประเด็นค่อนข้างกว้างขวาง และครอบคลุมเกือบทุกนโยบายที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อน
ทั้งทำสำเร็จแล้ว หรือ ยังคาราคาซัง และกำลังส่งผลกระทบในด้านความเชื่อมั่น และกัดกร่อยกระบวนการยุติธรรม จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า 2 มาตราฐาน โดยมี “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งเดินทางกลับมารับโทษ เข้าสู่กระบวนการยุธรรม ในวันเดียวกับที่รัฐสภาโหวต “เศรษฐา” เป็นนายกฯ เป็นตัวละครหลักที่อาจจะถูกพูดถึงมากที่สุดในการซักฟอกครั้งนี้
จากการตรวจสอบพบว่า ในประเด็นปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีประเด็น”ทักษิณ” ที่ไม่ต้องอยู่เรือนจำเลย 6 เดือน และได้รับการพักโทษออกไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า และตะลอนทัวร์เชียงใหม่ ประหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคน จะต้องถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นเปรียบเทียบว่าการบังคับใช้กฏหมาย มี 2 มาตรฐานจริงหรือไม่ หรือกระบวนการยุติธรรม ทั้งระบบ มีช่องโหว่มากน้อยเพียงใดนั้น
นอกจาก “เสรี สุวรรณภานนท์” ผู้นำการอภิปรายจะเปิดประเด็นและอาจลงรายละเอียดเล็กน้อยเป็นคนแรกแล้ว และสมชาย แสวงการ หัวหมู่ทะลวงฟันของ สว.ที่ตามติดประเด็นนี้มาอย่างยาวนาน มือชำแหละในหัวข้อนี้ ของ ส.ว.ที่เหลือจะประกอบด้วย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์, ถวิล เปลี่ยนศรี, พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, อุปกิต ปาจรียางกูร, รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล, นายประพันธุ์ คูณมี และว่าที่ร้อยตรีวงศ์สยาม เพ็งพาณิชภักดี
ซึ่งต้องติดตามว่าทั้ง 7 คน จะสะท้อนปัญหากระบวรการยุติธรรมออกมาว่าอย่างไรบ้าง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ”ทักษิณ” รวมถึงมีประเด็นอื่นอีกมาน้อยแค่ไหน ที่สมาชิกวุฒิสภา พบเห็น และมองว่าเป็นปัญหาที่กระบวนการยุติธรรมถูกกัดเซาะในยุครัฐบาล”เศรษฐา” และอยากให้รัฐบาลปรับปรุงแก้ไข เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ว่าไม่ได้มี 2 มาตรฐาน คุกมีไว้ขังเฉพาะคนจนเพียงอย่างเดียว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
