ชู “ทักษิณ” คนอัจฉริยะ กุนซือเก่ง โจทย์ยากแก้ศก.

 

 

 

 

 

ยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิดกับสมการทางการเมือง หลังอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเหนือปิ๊กบ้านที่เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

นักวิชาการ มองว่า นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์การเช็กเรทติ้ง เชื่อมโยงกับเป้าหมายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในการยึดพื้นที่ ชิงฐานเสียงที่มั่นกลับคืนมา หลังจากการเลือกตั้งครั้งก่อน เสียพื้นที่ให้กับพรรคก้าวไกล

 

นอกจากนี้ ข่าวคราวการเข้ามาเป็น “กุนซือ” ให้กับพรรคเพื่อไทยของอดีตนายกฯทักษิณ ทำให้หลายฝ่ายจับตาดูนโยบายเศรษฐกิจนับจากนี้จะทวีความเข้มข้นมากขึ้นแค่ไหน

 

โดย “รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์” นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวย้ำกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ด้วยประสบการณ์และบุคลิกของอดีตนายกฯทักษิณที่เป็นคนง่ายๆ รวมถึงเป็นผู้มีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทย จึงไม่แปลกใจที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาล

 

“คุณทักษิณเองก็เป็นคนที่มีประสบการณ์และพูดง่ายๆ เป็นคนซึ่งมีอิทธิพลอยู่ในพรรคเพราะฉะนั้นก็ไม่น่าแปลกใจว่า ในการที่จะทำหน้าที่ลักษณะที่ให้คำปรึกษา ซึ่งเป็นคำปรึกษาจริงๆก็คงไม่ได้ไปดูถึงว่ามี 2 นายกฯอันนี้ก็ต้องพูดให้เกียรตินายกฯหน่อย นายกฯเองก็มีพูดง่ายๆ แม้ว่าจะเป็นลักษณะที่มาจากข้างนอกเป็นบุรุษ แต่เขาก็มีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในเอกชนแล้ว เพราะฉะนั้นเค้าก็มีอัตลักษณ์ของตัวเอง”

 

อย่างไรก็ตาม “รศ.ดร.สมชาย” ยอมรับว่า แตาด้วยบริบทของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ที่มีปัญหามาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้

 

“แม้ว่าคำแนะนำจะมีบอกลักษณะดีๆได้ก็ตาม แต่ว่าจะเป็นไปได้นั้นขึ้นอยู่กับบริบทของตัวเศรษฐกิจ กับอันที่ 2.ก็คือ ทำได้ขนาดไหนเพราะฉะนั้น บริบทในทางเศรษฐกิจต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้เป็นใจกับทางรัฐบาลเท่าไหร่ เพราะว่าที่สำคัญก็คือประเทศไทยเสียความสามารถในการแข่งขัน เราจะเห็นได้ชัดว่า อัตราการเติบโตติดต่อกันมา 10 กว่าปีเฉลี่ยประมาณตั้งแต่ปี 2010 ไปถึงปี 2023 อัตราเฉลี่ยของเราขยายตัวเพียงแค่ปีละ 2.6%

 

ซึ่งอาเซียนประมาณ 4-4.3% แล้วก็ที่ผ่านมา ปีที่แล้วเราขยายตัวแค่ 1.9% เพราะฉะนั้นในอันนี้ก็คิดว่าตัวนี้เป็นบริบทที่แก้ยากมากเพราะว่าประเด็นปัญหา จึงไม่ได้อยู่ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างที่รัฐบาลกำลังพยายามทำอยู่ แต่ต้องมีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานมาก”

 

และสำหรับมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่ออดีตนายกฯทักษิณ ล่าสุด นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับนักลงทุนต่างประเทศการจาก เชิญของ Bank of America ให้ไปบรรยาย โดย “นายพิชัย” ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลนำโดยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะนำพาประเทศให้หลุดจากภาวะวิกฤติกบต้ม ที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำมาตลอด 10 ปีที่ผ่านได้ และพร้อมจะเปิดทำธุรกิจเหมือนที่นายกฯ เศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสารไทม์ โดยรัฐบาลจะทำหลายเรื่องพร้อมๆกันทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

 

ทั้งนี้ “นายพิชัย” ได้ตอบคำถามของนักลงทุนต่างประเทศด้วยว่าหลายโครงการเริ่มแนวคิดมาตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯทักษิณ ที่เป็นคนอัจฉริยะ และถ้าหากได้ทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย ป่านนี้ประเทศไทยน่าจะพัฒนาไปมากกว่านี้มาก แต่ทำตอนนี้ก็ยังไม่สาย ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศต่างก็เห็นด้วยในความเก่งและความฉลาดของอดีตนายกฯ และจะยิ่งสร้างความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้น

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสมการทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย หลังอดีตนายกฯกษิณ เดินทางโรดโชว์ไปหัวเมืองต่างๆเพื่อเช็กเรทติ้งวัดกระแสทางการเมือง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่องบประมาณปี 2567 คลอดแล้ว แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มทยอยออกมา เมื่อนั้น เราจะยิ่งเห็นการเดินเกมของพรรคเพื่อไทยที่มีกุนซืออย่างอดีตนายกฯทักษิณชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews