วันนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายัง ศาลแขวงปทุมวัน ตามกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.33/2567 ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหา แจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา”
จากกรณีที่ ทนายตั้มกับเจ้าของร้านอาหารทะเลได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์และเจ้าของร้านอาหารทะเลได้มีการบันทึกเสียงเอาไว้ แล้วนำมามอบให้กับตนเอง ไม่ใช่เป็นการที่ตนเอง ไปดักฟังโทรศัพท์ของทนายตั้มแต่อย่างใด ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามและพนักงานอัยการมีความเห็นเป็นที่สุดแล้วว่าสั่งไม่ฟ้อง ทั้ง 4 คดี ตนเองจึงจะเดินหน้าฟ้องกลับทนายตั้ม ใน 4 จังหวัด 4 ศาล เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ภายหลังไต่สวนมูลฟ้องแล้วเสร็จ ศาลแขวงปทุมวัน ได้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลา 13.30 น.
ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงกรณีของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกศาลออกหมายจับ ในข้อหาสบคบฟอกเงินฯ และเข้ามอบตัวเมื่อวานที่ผ่านมานี้ ว่า ตนเองมองว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และรู้สึกดีใจมาก ที่บิ๊กโจ๊ก ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความจริง ความบริสุทธิ์ในศาล หากไม่ได้ทำผิดอะไรให้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
เมื่อเป็นผู้รักษากฎหมายต้องทำตามกฎหมาย อย่ามัวแต่เชื่อทนายใช้เทคนิคไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมระบุ คำสั่งศาล ชี้แล้วว่า คดีฟอกเงิน นี้ อยู่ในอำนาจของศาลอาญา ก็ บ่งชี้แล้วว่า คดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา ไม่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ ป.ป.ช ทั้งนี้ตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ป.ป.ช แล้วเช่นกัน เพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการทำคดี เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานของ ป.ป.ช
นอกจากนี้ กรณีที่นายกรัฐมนตรีอยากปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ นายอัจฉริยะ กล่าวอ้างว่าตนเองมีข้อมูลเกี่ยวกับนายพลระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึง 8 นายที่มีส่วนพัวพันเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์และถือว่าเป็นตัวการใหญ่สุด ซึ่งตนยังไม่เปิดเผยข้อมูลในเร็ว ๆ นี้ แต่ระบุกับสื่อมวลชนว่า หากสามารถดำเนินคดีกับนายพลทั้ง 8 นายนี้ได้ องค์กรตำรวจจะโปร่งใสมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews