เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการต่อยอดเพื่อผลักดันไปสู่งานเทศกาลระดับโลก
และแน่นอนว่าปีนี้ ทุกสถานที่ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมอย่างเต็มเนี่ยว ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินสะพัดอย่างอู้ฟู้ ดีต่อเศรษฐกิจไทย
โดยธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ประมาณการว่า ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท โดยพิจารณาจากจำนวนวันหยุดยาวที่เพิ่มขึ้น และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ สะท้อนภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในที่คึกคัก
ขณะที่กรุงเทพมหานครนั้น ทาง ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” ก็เตรียมแถลงจุดจัดงานสงกรานต์ทั่ว กทม. 118 จุด เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในเมืองหลวง ในวันที่ 9 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.จะพาไปส่องตัวเลขเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หน่วยงานต่างๆ ได้ประเมิณกันออกมา
เริ่มต้นที่ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ระบุว่า เม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉพาะวันที่ 12-16 เมษายน คาดว่าจะแตะ 41,500 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงปี 2566 ที่เม็ดเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ราว 26,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 55% ด้วยสาเหตุหลักซึ่งประกอบด้วย เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ช่วงวันหยุดสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีกว่าปีก่อนที่เทศกาลมีวันหยุดเพียง 4 วัน
นอกจากนี้ในปี 2567 เมื่อพิจารณาในระยะเวลาช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์ก่อนสงกรานต์ซึ่งนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่มจับจ่ายตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 เมษายน ลากยาวจนเดินทางกลับมาทำงานหลังสงกรานต์ ก็คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มเติมราว 25,800 – 37,400 ล้านบาท เมื่อรวม 2 ช่วงวันหยุดคิดเป็นเงินสะพัดถึง 67,300 – 78,900 ล้านบาท
ด้านมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 21 วัน คือ 1-21 เม.ย.จะมีเงินสะพัด อยู่ที่ 128,834.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียน 125,203 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 69,397 ล้านบาท
แต่หากประเมินเฉพาะ 5 วัน คือ 12-16 เม.ย. คาดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11,802.25 ล้านบาท หรือมีนักท่องเที่ยวประมาณ 465,383 คน
ส่วนถนนข้าวสาร “นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สงกรานต์ถนนข้าวสารปีนี้ คาดว่าจะมีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมวันละกว่า 1 แสนคน มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน
“เม็ดเงินที่เราคิดว่ามันน่าจะวิ่งจากไปปีนี้ น่าจะเกิน 100 ล้าน สาเหตุปกติแล้วเกินอยู่แล้ว คือหลักๆปีนี้เนื่องจากททท.มีจัดกิจกรรมตั้งแต่ 11 – 16 โดย 11-12 จะมีการปิดถนนราชดำเนิน แล้วก็มีขบวนพาเหรดของททท. ซึ่งตรงนี้ททท.เองคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณแสนกว่าคน ปิดตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปจนถึงสนามหลวง
ซึ่งจะผ่านคอกวัว ซึ่งเราก็คาดว่า 11 – 12 เม.ย. คนที่มาดูเสร็จหรือที่มาก่อนก็คงจะเดินเล่นบนถนนข้าวสารหรือดูเสร็จก็คงเข้ามาที่ถนนข้าวสาร อันนี้คือวันที่ 11 และ 12 ส่วน 13,14,15 ถนนข้าวสารก็มีจัดเล่นน้ำสงกรานต์ 3 วัน ซึ่งเราก็แน่นอนคาดการณ์ว่ามันต้องมีประมาณแสนกว่าคนต่อวัน เนื่องจากคนจะมาเที่ยวที่สนามหลวงด้วย ซึ่งททท.จัดคนก็มาเที่ยวถนนข้าวสารเสร็จ ก็ไปต่อที่สนามหลวง หรือเที่ยวต่อสนามหลวงมาเที่ยวต่อที่ถนนข้าวสาร อันนี้เราก็คาดว่าวันละน่าจะมีแสนกว่าคน ซึ่งเงินสะพัดต่อวันเราคาดว่าเกิน 100 ล้านบาท”
และนี่ก็เป็นภาพรวมเงินสะพัดสงกรานต์ปี 2567 ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการต่อยอดนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะทุกแรงขับเคลื่อนที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
