ถูกมองว่า หรือจะ “ไม่ธรรมดา” จะมีอะไรซ่อนซ้อนไว้ในกอไผ่หรือไม่อย่างไร กับ การยอมให้ บุตรสาวของ“ผู้นำจิตวิญญาณ-ทักษิณ”อย่าง“อุ๊งอิ๊งค์”ต้องมาถูก “ทัวร์ลง”จากทุกทิศทั่วไทย ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว(3พ.ค.)ที่เพื่อไทยเปิดแคมเปญ “10 เดือนไม่รอใครไปต่อให้เต็ม10” จนมาถึงวันนี้(7พ.ค.) ครม.เศรษฐา 1/2 ที่เพิ่งปรับไปเริ่มทำงาน ประเดิม ประชุมครม.กระสุนยังไม่หยุดตกที่ “ตำบลอุ๊งอิ๊งค์” เหตุเพราะไปสปีคกิ้ง ว่า ความเป็นอิสระของ“แบงก์ชาติ”เป็น “อุปสรรค”ต่อการพัฒนาประเทศ และทำท่าว่าจะมีการ “แก้กฎหมายแบงก์ชาติ”
ทำให้ถูกมองเป็น “เจตนาร้าย” ของฝ่ายการเมือง “รัฐบาลเพื่อไทย”โดย “ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล”อย่าง “ทักษิณ”กำลังให้รัฐบาลใช้วิธีการ แก้พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อ เปิดทาง ไปสู่การ “ปลดผู้ว่านก-เศรษฐพุทธ”ผู้ว่าแบงค์ชาติคนที่ 24 ที่มี “ยันต์”เทคโนแครตฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นเกราะกำบัง อย่างที่พูดกับคณะ“ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว”ที่มามอบทองคำช่วยชาติ12.5กิโลกรัม และให้กำลังใจ ผู้ว่าแบงก์ชาติ(30เม.ย.)ก่อนส่งสัญญานชัดใน “จุดยืน”ให้กับคนแบงก์ชาติ ว่า “รัฐบาลผู้ว่าแบงก์ชาติมาแล้วก็ไป แต่สถาบันองค์กรธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องอยู่อย่างเข้มแข็ง” กระทั่งเกิดกระแสโซเชียลติด #Saveผู้ว่าแบงก์ชาติจน “นายกนิด-เศรษฐา”ต้องรีบออกมาปฏิเสธเมื่อวาน(6พ.ค.)ว่าแม้จะเห็นไม่ตรงกันเรื่องการลดดอกเบี้ยแต่ที่เรียกมาคุยก็ไม่ได้กดดัน หรือจะคิดไปปลด “ผู้ว่าแบงก์ชาติ”
น่าสนใจว่าหะแรก หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลเพื่อไทย โดย “ผู้นำจิตวิญญาณ”พลาดหรือเปล่าที่ให้ “อุ๊งอิ๊งค์”มาส่งสัญญานชนกับ “แบงก์ชาติ”ที่เป็นเหมือนตัวแทน “เทคโนแครต”ฝ่ายอนุรักษ์นิยม เพราะดูจะเรียกแขกได้ทั้งสื่อทั้งนิวิชาการ ทั้งฝ่ายค้านเก่าใหม่ ประชาธิปัตย์-ก้าวไกล ทุกวงการรุมถล่มมาในทางลบ แต่ในอีกมุมคอการเมืองก็ตะหงิดใจ กับ จังหวะซ้อนที่ซ่อนอยู่ในช็อตนี้ คือการที่ “รัฐบาลนิด1/2”กำลังขยับ วางแนวทางในการบริหารงานเกี่ยวกับ ธปท.เพื่อให้ส่งเสริมนโยบายการทำงานของรัฐบาลได้มากขึ้น
โดย หนี้สาธารณะบางส่วนที่อยู่ในบัญชีบริหารหนี้สาธารณะที่เกิดจากความเสียหายของสถาบันการเงินตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2540 โดยปัจจุบันอยู่ในบัญชี FIDF ประมาณ 5.9 แสนล้านถูกนับเป็นหนี้สาธารณะที่ต้องมีการรายงานทุกปีทำให้ ล่าสุดมีแนวคิดจากทางรัฐบาลที่จะบริหารหนี้ก้อนนี้ใหม่ โดยโยกไปให้ ธปท.รับหนี้เอาไว้แทน เพราะมองว่าหนี้ส่วนนี้มาจากความเสียหายของสถาบันการเงิน หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลเพื่อไทยเคยออก พ.ร.ก.ในปี 2555 ให้มีการนำ FIDF fee มาทยอยจ่ายคืนแทนการตั้งงบประมาณมาแล้ว ซึ่งการดำเนินการนี้จะช่วยเปิดพื้นที่การคลัง ลดเพดานหนี้สาธารณะ ทำให้รัฐบาลมีพื้นที่ทางการคลังในการทำนโยบายต่างๆเพิ่มขึ้น
น่าสนใจว่าการขยับดังกล่าวถูกมองเป็นแผน “ย้อนศร”ให้เห็นว่าแบงค์ชาติที่มีความเป็นอิสระก็ใช่ว่าจะไม่เคยพลาดโดยทำให้เห็นว่ามีปัญหาการบริหารจัดการ อย่างที่ “อดีตกุนซือรองนายก” “ไพศาล”โพสFB ว่าจู่ๆเพื่อไทยสวนกลับ ว่าโครงการแจกเงิน 10,000 บาทนั้น ไม่กระทบต่อภาระหนี้สาธารณะ เพราะแก้ไขได้ โดยจะให้โอน”หนี้กองทุนฟื้นฟู” จากกระทรวงการคลังคืนกลับคืนธนาคารแห่งประเทศไทย มียอดร่วมล้านล้านบาทนี่คือการใช้หอกคนป่าแทงคนป่า ดับอหังการ์ของคนแบงค์ชาติ หนี้กองทุนฟื้นฟู คือพยานแห่งนวัตกรรมอมตะและ ล้ำค่าของแบงค์ชาติที่เคยอ้างความเป็นอิสระและแตะต้องไม่ได้
เมื่อครั้งเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง เข้าไปเก็งกำไรค่าเงินบาทจนชาติล่มจมเศรษฐกิจชาติพินาศประชาราษฎร์ฉิบหายหมด แบงก์ชาติเองก็เสียหายถึง1.4 ล้านล้านบาท ค่าความเสียหายดังกล่าวตั้งไว้ในบัญชีเงินกองทุนฟื้นฟู สถาบันการเงิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเป็นต้นเหตุทำให้กระทบต่อผลประกอบการของธนาคารแห่งประเทศไทยมา ร่วม 20 ปี ถึงช่วงหนึ่ง จึงมีพวก คิดลดภาระแบงค์ชาติ โดยโอนหนี้กองทุนเงินฟื้นฟู 1. 4 ล้านล้านบาท มาเป็นหนี้ของกระทรวงการคลัง ให้ประชาชนไทยทั้งประเทศแบกรับภาระหนี้ จากความอิสระในครั้งนั้น 20 ปีเศษต่อมาได้ใช้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้วหลายแสนล้านบาท แต่หนี้ยังคงเหลืออยู่ ร่วมล้านล้านบาท และเป็นหนี้สาธารณะที่กระทบต่อวงเงินหนี้สาธารณะด้วย เมื่อแบงค์ชาติอ้างว่าโครงการยืมเงินมา แจก 5 แสนล้านบาท กระทบต่อหนี้สาธารณะ
รัฐบาลเพื่อไทยก็แก้เกม ว่าไม่กระทบ โดยการขอโอนคืนหนี้สาธารณะของแบงก์ชาติจากบัญชีกองทุนฟื้นฟูเดิม กลับไปให้แบงก์ชาติแบกรับต่อไป มีผลคือ เตือนสติคนทั้งหลายให้ตระหนักว่า ที่ว่าอิสระแล้วแตะต้องไม่ได้นั้น ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่ง การอ้างแบบนี้ เคยสร้างความเสียหายมาแล้ว และ เป็นการลดหนี้สาธารณะของรัฐบาล 1 ล้านล้านบาทเปิดทางให้กู้ยืมเงิน 500,000 ล้านบาทโดยไม่กระทบหนี้สาธารณะอย่างสบายใจเฉิบ และโอนหนี้กลับไปให้แบงก์ชาติรับผิดชอบเองต่อไปเรียกว่ายิงนัดเดียวได้นกทั้งฝูง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
