รัฐบาลเพื่อไทย-เล่นข้าวลุยไฟ?
ไม่แต่ “หมอวรงค์” ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ที่ออกมาเตือนโดยยก “คำสอน” คนโบราณ“ไปยัง“รัฐบาลเพื่อไทย” “นายกฯเศรษฐา”วันก่อน ทำนอง “คนไทยอย่าเล่นกับไฟ คนเพื่อไทยอย่าเล่นกับข้าว”จากกรณี “รัฐมนตรีพี่อ้วน-ภูมิธรรม” กินข้าว 10 ปีล้าง 15 น้ำโชว์แถมให้สื่อร่วมชิม บอกยังกินได้จนเกิดดราม่า“ทัวร์ลง”จากทุกทิศทางว่าเจตนาเคลียร์รันเวย์ให้ “อดีตนายกฯปู” กลับบ้าน
แม้หะแรกจะบอกเพื่อไม่รัฐเสียประโยชน์โดยจะเอา “ข้าวเก่า10ปี”ไปขาย หรือ ให้ทหารกิน ก่อนที่ต่อมา ก่อนจะไหลมเชื่อมโยงไปสู่การเช็คบิล“รัฐบาลลุงตู่” ผู้ “ตีตรา”ว่า “ข้าว”จากการจำนำข้าว ที่เก็บไว้ในโกดัง ของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”ที่เกิดการทุจริตเกิดความเสียหายต่อรัฐเพราะเป็น“ข้าวเน่า”กินไม่ได้จนต้องจำหน่ายราคาถูกเป็น “อาหารสัตว์”ที่ทั้ง “รัฐมนตรีทนายพิชิต ชื่นบาน”และ “โฆษกชัย”ออกมาปิดตาตีชี้ไปที่“ไอ้โม่ง”ขายข้าวราคาถูก ได้ “ส่วนต่าง”นับหมื่นล้าน
หากแต่ด้วยเหตุการณ์ “ไฟไหม้โรงงาน” คลังเก็บสารเคมีอันตรายใหญ่ๆบ่อยครั้งแบบเสียหายร้ายแรงแบบ“ซ้ำรอย”คล้ายมีการ “ท้าทายระบบ”และซ่อนซ้อนไปด้วย “เงื่อนปม”เกิดปัญหาการบริหารจัดการ จนมีการตำหนิจาก“นายกฯ”กระทั่งมี ผู้บริหารกรม ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงอุตสาหกรรมต้องแอ่นอกลาออกกลางวงประชุมกรรมาธิการสภาฯ
แม้กระทั่งก็ยังเกิดเหตุแทงค์เก็บสารเคมีระเบิดและเพลิงไหม้ที่จังหวัดระยองเมื่อวาน(10พ.ค.)ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเชิง“สายมู”จาก “เทพไท เสนพงศ์”ทำนองไม่เชื่ออย่าลบหลู่ตั้งข้อสังเกตเหตุร้ายแรงรัฐบาลเศรษฐามักมากับเรื่องฟืนไฟ ส่วน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”มักเป็นเรื่องน้ำท่วมใหญ่ที่ทำให้เกิดควาเสียหายเดือดร้อนของผู้คน
กระนั้นในทางมิติการเมืองโดยร่องรอยความเคลื่อนไหวของผู้คนในรัฐบาล โดยเฉพาะจาก “ศูนย์อำนาจ”บ้านจันทร์ส่องหล้า โดย “ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล”อย่าง “นช.ทักษิณ”ก็ถูกจับตาทั้ง “ผลกระทบ”จาก “อำนาจซ้อน”ปรากฏเป็น “ปัญหา”จาก“ความเคลื่อนไหว”ของเขา จาก “ภายใน”ไปสู่ “ภายนอก”ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยผลกระทบจนเป็นความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคเพื่อไทย ของบรรดา “รัฐมนตรี”
แต่ละพรรคแต่ละกระทรวงจากการปรับครม.เศรษฐา1/2 แบบ “หักดิบ”ที่ถูกทักจากทุกฝ่าย ว่า “ทักษิณเชนคัมแบ็ค” ไม่นรับรวมร่องรอยที่ปรากฏ“สัญญาน”ผ่าน “อุ๊งอิ๊งค์”กรณี วิ่งชนกำแพง “แบงค์ชาติ”ที่ขัดแย้งกับเทคโนแครตและข้าราชการ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”หรือแม้กระทั่งความเคลื่อนไหวกับกิจการความมั่นคงต่างประเทศ กรณี “พม่า” “มาเลย์”และ “กัมพูชา”ที่มีหน่วยงานความมั่นคงกองทัพดูอยู่ เหล่านี้ล้วนถูกจับตาจาก “ฝ่ายอำนาจเก่า”
โดยเฉพาะถูกมองเชื่อมโยงถึงปรากฎการณ์ล่าสุดที่เกิดรอยแตกร้าว แยกย้ายของผู้คน ใน “พรรค2ลุง”ทั้ง“รวมไทยสร้างชาติ”(รทสช.)ของ “ลุงตู่”และ “พลังประชารัฐ”(พปชร.) แม้กระทั่ง ร่องรอยขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย กรณี กัญชา รวมถึง ปรากฎการณ์การกระแทกเฉียดไปยัง “องค์กรอิสระ”เช่น “ปปช.”ที่กำลังเคลียร์ปมเปิดหลักฐานเคส “นาฬิกาป้อม”กับ“ศาลปกครอง” ในช่วงจังหวะที่วันนี้(10พ.ค.)เป็นวันสุดท้ายของ“สว.250”ที่มาจากสมัย”รัฐบาลคสช.”ของ “พี่น้อง3ป.”ที่ยึดอำนาจ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”ปี2557 ที่ทั้งหมดถูกมองความเชื่อมโยงไปถึง “คดี112” ของ “ทักษิณ” ที่จะมีการเคาะในวันที่ 29 พ.ค.ว่าผลจะออกมาอย่างไร
โดยทั้งหมดโดยรวมถูกมองจากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายด้วยความเป็นห่วง กับปรากฎการณ์ “ท้าทายระบบ”ที่ ไม่ตรงกับ “ดีล”ที่เคยมีการตกลงในท่วงทำนอง“เล่นกับไฟ”ที่กำลังเกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งอาจจะไหลรวมกลายเป็นเงื่อนไข “ล้มกระดานอำนาจ”ที่บิ๊กๆทหารหลายท่าน ก็ยังไม่เคยรับปากตอบเต็มคำ ว่าเหตุการณ์“ขออภัยในความไม่สะดวก”หรือ “การรัฐประหาร” อย่าง “ตู่-จตุพร”บอกวันก่อน ว่าตอนนี้ทำท่าว่าจะ “ครบองค์ประกอบ”จะไม่เกิดขึ้นอีกเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews