การเสียชีวิตของ “น.ส.เนติพร” หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” หนึ่งในแกนนำ “กลุ่มทะลุวัง” ระหว่างการจองจำจากคดีละเมิดอำนาจศาลวันนี้(14พ.ค.67)
นอกจากจะเป็นข่าวเศร้าของครอบครัวญาติมิตรและ เพื่อนร่วมอุดมการณ์ของ “บุ้ง” แต่ละกลุ่มที่เคยร่วมเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ที่ต้องสูญเสีย ยังเป็นข่าวที่เซ้นท์ซีทีฟในหลายมิติ ทั้งใน เชิง ผลกระทบทางการเมือง กับรัฐบาลเพื่อไทย “นายกเศรษฐา” ที่มาจากการ “พลิกขั้ว” การจัดตั้งรัฐ จาก “ก้าวไกล” ที่ชนะเลือกตั้งแต่แพ้เกมตั้งรัฐบาลของ “กลุ่มอำนาจเก่า” ในท่ามกลางสภาวะสังคมไทยที่แม้จะผ่านยุค “รัฐบาลลุงตู่” ที่เต็มไปด้วย การเคลื่อนไหวต่อต้านจาก “ม็อบเด็ก” มาแล้ว
แต่ก็ยังซุ่มซ้อนไปด้วยร่องรอยความขัดแย้งทางความคิดระหว่างกลุ่มอุดมการณ์ “อนุรักษ์นิยม” “เสรีนิยม” ประชาธิปไตย ที่เข้ามาสู่ “โหมด” วัย “คนรุ่นใหม่” เข้ามามีเอี่ยวทางการเมือง มาได้ระยะหนึ่ง และ ผลกระทบกับภาพกว้างและลึกกับกระบวนการยุติธรรม “เชิงเปรียบเทียบ”กับบางกรณีบางบุคคลระดับ “อดีตผู้นำ” ที่ ถูกหลายฝ่ายในสังคม จับจ้อง “บทบาท” การเคลื่อนไหวทางการเมือง
ในจังหวะเข้าสู่ “วันสัญลักษณ์” การต่อสู้เรียกร้องทางการเมืองของประชาชนบนท้องถนน ต่อต้าน “รัฐบาลทหาร” ที่ยึดอำนาจรัฐบาล และ เกิดการปราบปรามจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐกองทัพ จนหลั่งเลือด ใน เดือนพฤษภาคม ทั้งปี 2535 และ ปี.2553 ที่ถูกเรียกขานว่า “พ.ค.ทมิฬ”
เป็น “พ.ค.ทมิฬ” ที่ทุกยุคสมัยหรือทุกปีไม่ว่าในช่วง “รัฐบาลปกติ” ที่มาจากการเลือกตั้งอย่าง “รัฐบาลเศรษฐา” หรือ ในช่วง “รัฐบาลไม่ปกติ” ที่มาจาการ “ยึดอำนาจ” อย่าง “รัฐบาลคมช.ของลุงตู่” ที่บริหารมา9ปีก่อนยอมให้มีเลือกตั้ง จะมีการเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่ง “กลุ่มทะลุวัง” หรือ “ทะลุแก๊ช” หรือ “กลุ่มนักเรียนเลว” ที่ทั้ง “บุ้ง” กับ “หยก” เข้าไปมีบทบาทก็เคลื่อนไหวมาตลอด
นอกจากในจังหวะสำคัญทางการเมือง อย่างที่เคยเห็นในช่วงการไปบุกที่ทำการพรรคเพื่อไทยของ “บุ้ง-หยก” ในช่วงตั้งรัฐบาล “พลิกขั้ว” ของเพื่อไทย ที่แม้ภาพการเคลื่อนไหวของ “บุ้ง” จะถูกมองก้าวร้าว ดุดันไม่เกรงใจใคร แต่ด้านหนึ่งก็ถูกมองถึง “จุดยืน” การเคลื่อนไหวทางการเมือง การเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพื่อเพื่อนๆในสถานะตัวแทน “คนรุ่นใหม่”
ที่ใม่แปลกว่าในจังหวะการเสียชีวิตของ “บุ้ง” จากการ “อดอาหาร” เพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้อง วันนี้(14พ.ค.)กับความบังเอิญเป็นวันครบรอบ 1 ปี การเลือกตั้ง 14พ.ค.66 ที่ “พรรคก้าวไกล” และ “พิธา” ซึ่งวันนั้นสร้างกระแสเลือกตั้งฟีเว่อร์ ชนะเลือกตั้ง “ส้มทั้งแผ่นดิน” วันนี้ ก็ออกคลิปบอกเล่าเรื่องราวการชนะเลือกตั้งเพื่อหวังเข้ามาเปลี่ยนประเทศไทย
ทั้งในเชิงระบบและโครงสร้าง เหมือนภาพถูกฉายย้อนกลับไปสู่ “ความชอบธรรมทางการเมือง”ที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” ถูกโจมตีในช่วงเวลาหลังจากไปจับขั้วกับ “พรรค2ลุง” แม้ “อุ๊งอิ๊งค์” จะยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดเพราะการจะเข้ามาแก้ปัญหาประเทศมีหลายมิติที่จำเป็นต้องทำ
ยิ่งเมื่อมาผนวกเข้ากับภาพ “เชิงเปรียบเทียบ” กับการปฏิบัติ ในกระบวนการยุติธรรมที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” กระทรวงยุติธรรม และฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึง “นายกเศรษฐา” ถูกตั้งคำถามจาก สังคม และ จาก “ม็อบ กลุ่มคปท.” มาตลอดตั้งแต่ ประเด็น “คนชั้น14” จนมาถึง “ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล” อย่าง “ทักษิณ” ที่ยังคงปรากฏบทบาทการเมืองอย่างต่อเนื่อง คู่ขนานไปกับการบริหารประเทศของ “รัฐบาลเพื่อไทย-เศรษฐา” ที่ยังมีหลายเรื่องทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการ “แก้โจทย์ความขัดแย้ง”ในอดีต
ที่รับปากตอนหาเสียงไม่ว่าจะเป็นการแก้รัฐธรรมนูญ การ นิรโทษกรรม หรือแม้กระทั่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ยังถูกเตะสกัดจาก “ระบบ” ของ “ฝ่ายราชการ” ทำให้ ทั้งหมดถูกมองว่าในจังหวะเดือนสัญลักษณ์ ที่เคยเกิดเหตุการณ์เชื่อมต่อจาก “ม็อบ” ลงถนนชงใส่พาน “ล้มกระดานอำนาจ” จู่ๆมาเกิดการเสียชีวิตของ “บุ้ง” อาจจะเป็นอีกในเอฟเฟ็กต์ต่อรัฐบาลในสถานการณ์การเมืองของเดือนนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews