Home
|
ข่าว

เพื่อไทย (ทักษิณ) ต้านรัฐประหาร?

 

 

 

ท่ามกลางความชุลมุนสับสนในร่องรอยรักลวงพรางในร่องรอยความขัดแย้งถ่วงดุลสภาพแบบคุมเชิงต่อรอง ระหว่าง “3 ขั้วอำนาจการเมือง” ระหว่างกลุ่มอำนาจเก่าอนุรักษนิยมและ “ขั้วอำนาจทักษิณ”

 

 

 

 

 

ผ่าน “รัฐบาลพรรคเพื่อไทย” ที่ถูกแทนค่าเป็น “อนุรักษนิยมใหม่”และ ฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่มี “ธนาธร” “พรรคก้าวไกล” เป็นแกนนำนับแต่เกิดภาพ “ดีลลังกาวี” การพลิกขั้ว มาจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยกับ “พรรค2ลุง””รวมไทยสร้างชาติ” (รทสช.) และ “พลังประชารัฐ” (พปชร.) ผนวกด้วยพรรคร่วมรัฐบาลเดิมภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา เว้นประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลายเป็นแม้จะมีความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ แบบไม่เอิกเกริกอย่างอดไม่ได้ที่ผู้คนในพรรคเพื่อไทย จะตัดแทรกโปรแกรม วันรำลึกวันถูกยึดอำนาจของ

 

 

“รัฐบาลปู-ยิ่งลักษณ์” น้องสาวที่ “นายทักษิณ” ที่ตอนนี้นอกจากจะเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย”ยังกลายเป็น “ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล” อยากให้กลับมาร่วมสงกรานต์ปีหน้าก็ถูก “จับผิด” จากผู้คนใน “ความย้อนแย้ง” กับ “อีเว้นต์เล็ก ๆ”หากเปรียบเทียบกับ “อีเว้นต์ใหญ่” ของ “ก้าวไกล” วันก่อน ในการแถลงของ “พรรคเพื่อไทย” เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ “การต่อต้านการรัฐประหาร”

 

 

อย่างที่มีเพียงการให้ “อ.ชูศักดิ์” และ “บรู๊ค-ดนุพร” โดยไม่มี “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าพรรคออกมาแถลงที่พรรควันนี้ (21พ.ค.) โดยระบุทำนองว่า “วันที่ 22 พ.ค.57 คสช.
ยึดอำนาจรัฐบาลเพื่อไทย ที่มาจากการเลือกตั้ง การทำรัฐประหารคือการกระทำที่ผิดกฎหมายทำลายประชาธิปไตย ผลักประเทศชาติให้ถอยหลัง ภายใต้อำนาจเผด็จการ

 

 

สิ่งที่เราสูญเสียไปคือโอกาสของประเทศไทย พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า เราปฏิเสธการรัฐประหารไม่อาจยอมรับสารตั้งต้นที่อาจเป็นการสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหารและปฏิเสธการนิรโทษกรรมอันเกิดจากการรัฐประหารในทุกกรณี ศาลและองค์กรต่าง ๆต้องยกเลิกบรรทัดฐาน ที่ว่าการรัฐประหารที่ใช้กำลังอาวุธเบ็ดเสร็จเป็น “รัฏฐาธิปัตย์”เราขอยืนยันแนวคิดว่าให้มีการ “ตรากฎหมายต่อต้านการทำรัฐประหาร”ขึ้น โดยห้ามไม่ให้ศาลยอมรับการรัฐประหารว่าเป็น “รัฏฐาธิปัตย์”

 

 

และยืนยันในแนวคิดว่าความผิดในการรัฐประหารไม่มีอายุความโดยให้ถือเป็นประเพณีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยการรัฐประหารคืออาชญากรรมที่ร้ายแรงต่อมวลมนุษยชน เป็นอาชญากรรมต่อระบบประชาธิปไตยพวกเรายึดมั่นในหลักการว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทุกคนเราจะร่วมกันต่อต้านการรัฐประหาร ที่ต้องหมดไปจากประเทศไทย พรรคเพื่อไทยในฐานะสถาบันการเมือง

 

 

 

ในฐานะแกนนำจัดตั้ง “รัฐบาลของประชาชน” เราจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างดีที่สุด เราจะร่วมมือกับคนไทยที่รักประชาธิปไตยทุกคน ไม่ให้การทำรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย และอยากให้ทุกคนช่วยกันผลักดันประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสู่สากลโลกขณะที่ “อ.ชูศักดิ์” ยืนยันว่า จุดยืนของเพื่อไทยคือกรทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทน “รัฐธรรมนูญ 60” และต้องมีบทบัญญัติว่าด้วยการต่อต้านการทำรัฐประหารอยู่ในนั้นด้วย และมั่นใจว่า รธน.ฉบับใหม่จะสำเร็จในรัฐบาลเพื่อไทย ใน 4 ปีนี้ เพื่อให้เป็นของขวัญให้ประชาชน

 

 

เรียกว่าแม้โดยเนื้อหาจะถูกมองว่าเป็น “จุดยืน” ของ “เพื่อไทย” ที่เป็น “รัฐบาล”แต่ก็ถูกมองแบบ “ไม่แยกส่วน” ว่าเป็นท่าทีจาก “ฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่ไปขับเคลื่อนประเด็นที่หาเสียงไว้ ว่าทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ และ กฎหมายนิรโทษกรรม เป็น “เรื่องเร่งด่วน” ต้องทำทันทีเช่นเดียวกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเพื่อเดินไปสู่ “จุดยืน” การไม่เอาด้วยกับ “อำนาจการเมือง”

 

 

 

ที่มาจาก “การรัฐประหาร” แต่ด้วย “ภาพจับต้องได้” กับ “ที่มา” ของ “รัฐบาลเพื่อไทย” ที่มาจากการ “พลิกขั้ว” สลัดรัก “ก้าวไกล” ฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมกับ “พรรค2ลุง” ใน 3 ป.ที่ทำการรัฐประหาร “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”จนมาเป็นรัฐบาลคสช.และ “รัฐบาลลุงตู่” 8-9 ปี จนเลือกตั้งใหม่ ไม่นับรวมการตอกย้ำว่า “ตัดสินใจถูก” ในการตั้งรัฐบาล จาก “หัวหน้าพรรคอุ๊งอิ๊งค์” ไม่กี่วันก่อนที่แถลง “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10″ไม่นับรวมร่องรอยความเคลื่อนไหวแบบ “ไม่แผ่ว” ของ “นายทักษิณ” ที่ “เล่นเอาเถิด” หลอกล่อกับอีก 2 ขั้วการเมือง

 

 

ที่ทำให้เกิด “สัญญาณเตือน” ไปยัง “นายทักษิณ” ที่ความจริงก็มีคดี “ม.112” ที่อัยการจะเคาะวันที่ 29พ.ค.แต่ก็ไม่ยอมแผ่วกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง
โดยมีภาพจากการ “ทิ้งทวน” ของ “40สว.” สายลุงคนน้อง ที่ไปยื่นถอดถอน”เศรษฐา-พิชิต” ต่อศาลรัฐธรรมนูญที่นัดพิจารณาจะรับคำร้องหรือไม่พฤหัสนี้ (23พ.ค.)ที่ปรากฏการณ์เหล่านี้นี้นอกจากถูกวิเคราะห์ว่าอาจบานปลายไปสู่ “สัญญาณวงรอบ 10 ปีรัฐประหาร”อย่างที่ “ไพศาล” อดีตกุนซือ “ลุงป้อม” โพสต์FB ยังรวมไปถึง

 

 

ปมการเบี้ยว “ดีลกลับบ้าน” ที่ “อดีตคนกันเอง” อย่าง “ตู่-จตุพร” มองว่าความเสียหายทั้งหมดมาจากการสมคบคิดตั้งแต่การยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 แล้วมาคืนอำนาจกลับสู่พรรคที่ถูกยึดไปในวันที่ 22 ส.ค. 2566แสดงให้เห็นการสมคบคิดชัดเจน เพราะการยึดอำนาจปี 2557อ้างเหตุผลถึงความเหลวแหลกของรัฐบาล แล้วมาคืนอำนาจให้ จึงเป็นการสมคบคิดตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้.

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube