ดำเนินไปอย่าง “คู่ขนาน” เหมือนคล้ายจะไม่เกี่ยว แต่เกี่ยว ในบางจังหวะจะโคนระหว่าง “ฉากการเมือง” ในไทม์ไลน์ช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีหมุดหมายคดีการเมืองสำคัญ
อย่างน้อย 2-3 คดี อันเกี่ยวข้องกับความเป็นไปเป็นอยู่ของรัฐบาลเพื่อไทย-เศรษฐาและปีกซีกขั้วการเมืองระหว่าง อนุรักษ์นิยม กับ ระบอบทักษิณ อนุรักษ์นิยมใหม่และพรรคเด็กก้าวไกล ไล่เรียงตั้งแต่ 1.คดียุบพรรคก้าวไกล ,2.คดี ม.112 ทักษิณ และ3.คดีถอดถอนนายกเศรษฐา ที่ล้วนถูกมองในมิติ “นิติสงคราม” การต่อรองทางการเมือง ระหว่างขั้วอำนาจเก่าใหม่ อย่างที่ “คนเพื่อไทย”บอกว่ามี “ขบวนการจ้องล้มรัฐบาล”จากบางขั้วการเมืองฝั่งอำนาจเก่า
เป็นความเป็นไปการเมืองแบบถูกมองในความสัมพันธ์ ของในรูปแบบกระบวนการองค์กรที่เคยเป็นองคพายพอำนาจสำคัญ ของ“รัฐบาลเก่า” ยุค “ลุงตู่” อย่าง “สภาสูง” “สว.”ที่เคยมีบทบาทสำคัญสู่การทำให้เกิด “รัฐบาลพลิกขั้วเพื่อไทย” โดยโหวต “เศรษฐา”นายกฯที่อาจเกิดภาพย้อนกลับ หากเกิด “อุบัติเหตุการเมือง” กับผู้กุมอำนาจการเมือง
โดย สว.ที่อยู่ในช่วงการ “แตะมือ”จาก สว.เก่าที่ ”หมดอายุ“ ไปตั้งแค่11พ.ค.แต่ยัง “รักษาการ” และปฏิบัติงานได้ทุกสิ่งอันยกเว้น “โหวดนายกฯ ”จนกว่าจะมี “สว.ใหม่”ที่มาจากเลือกกันเองในวันที่ 9 มิ.ย. จะเริ่มเลือกในระดับอำเภอแล้ว แต่กระแสยังโจมตี กกต.ในความช้าไม่พร้อมในกระบวนวิธี และถูกระแวงจับผิดจากหลายฝ่าย อย่างที่วันก่อน “สว.สมชาย”ออกมาแฉ โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.โดยมีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คน
เป็น ”สว.สมชาย“ ที่ถูกระบุและก็เคยยอมรับว่า อยู่ในกลุ่ม 40 สว. กับ ”สว.ดิเรกฤทธิ์“และสว.สายลุง เข้าชื่อเสนอถอดถอน ”นายกเศรษฐา“ ที่ตั้งทนายถุงขนม พิชิต เป็นรัฐมนตรี กระทั่ง ”ศาลรัฐธรรมนูญ“ รับคำร้อง แม้ไม่สั่งให้ ”หยุดปฏิบัติหน้าที่“ นายกฯแต่ก็ให้ ”เศรษฐา“ ชี้แจงใน 15 วัน ที่คดีอาจจบใน 30 วัน จนต้องไปขอใช้บริการ”อ.วิษณุ“ แม้กระนั้น ”สว.ดิเรกฤทธิ์“ ก็ยังออกมาขยี้ว่า ต่อให้ ”ยอดนักกฎหมาย“ คนใด ก็ช่วย ”นายกเศรษฐา“ ไม่ได้เพราะ ”ความผิดสำเร็จ“ ไปแล้ว
น่าสนใจที่ว่า การกระเพื่อมต่อเนื่องมาจาก 40 สว.จากยื่นถอดถอนนายกฯจนมาถึงการจับผิดโพยก๊วน เลือกสว.ถูกวิเคราะห์ว่าเชื่อมต่อกัน อย่างที่ “แสวง บุญมี” เลขาฯ กกต. ออกมาปลุกใจ คนกกต.ในการเตรียมงานเลือกสว.อีก 6 วันข้างหน้า ทำนองเป็นห่วงว่า กำลังมีกลุ่มอีแอบจ้อง เลื่อน-ล้ม-เลือก ส.ว. โดยปลุกใจจนท.รับมือด้วยสติ โดยบอกจากนี้ไปอาจมีแรงเสียดทานที่จะเกิดกับการทำงาน
เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา รวมทั้งการรับข้อมูลจากหลายด้านมีสัญญาณมาโดยตลอดว่ามีแรงเสียดทานเข้มข้นขึ้น อาจมีรูปแบบเป็นไปตามลักษณะและพฤติการณ์การแสดงออก ของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งที่ไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง
ที่พอจะจำแนกได้เป็น 1 “เลื่อนหรือลาก” การเลือก ส.ว.ออกไป รูปแบบที่ 2 “ล้ม” การเลือก ส.ว.รูปแบบที่ 3 “เลือก” แต่กดดันให้ได้ผลตามเป้าหมายที่หวังไว้ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบใด ก็ขอให้เป็นแค่การคาดการณ์ อย่าให้เกิดขึ้นจริง เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงย่อมไม่เกิดผลดีกับบ้านเมืองอย่างแน่นอนแต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากจะเกิดขึ้นจริงก็น่าจะเป็นเพียงความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้นเรารับมือเรื่องนี้ได้อย่างมีชั้นเชิง ถ้ามีคนคิดจะทำแบบนี้จริง ๆ เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองจะเกิดความเสียหายนับจากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews