วันนี้ อาจารย์ น้องไนซ์ และครอบครัวลัทธิเชื่อมจิต เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมแถลงข้อเท็จจริง
กรณี ถูกใส่ร้ายจากสื่อฯ และกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี กล่าวหาว่าเป็นลัทธิ ทำให้ได้รับความเสียหาย อับอาย ถือเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยจะขอให้ พม. มีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ น้องไนซ์ จากการถูกใส่ร้ายดังกล่าว
ซึ่งบรรยากาศที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า มีกลุ่มผู้ศรัทธา น้องไนซ์ เดินทางมารอพบ และให้กำลังใจด้วย
ด้าน คุณตาผู้ศรัทธาท่านหนึ่ง เผยว่า วันนี้ ตั้งใจนำดอกกุหลาบมามอบให้ น้องไนซ์ โดยตนเองติดตามผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งคำสอนมีการแนะนำให้นั่งสมาธิ วิปัสนากรรมฐาน ไม่ได้นอกเรื่อง เมื่อได้ฟังคำสอนแล้ว ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างทำให้สามารถนั่งสมาธิได้ง่ายขึ้น ซึ่งตนเองเชื่อมจิตผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์เท่านั้น
ยืนยันว่าไม่ใช่แค่ น้องไนซ์ ที่สามารถเชื่อมจิตได้ แต่ยังมีอีกหลายท่านที่ตนเองเคารพนับถือ และสามารถเชื่อมจิตได้เช่นกัน ส่วนเหตุการณ์ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวานนี้ ตนเองได้ดูข่าวแล้ว ก็รู้สึกสบายใจดี เพราะ น้องไนซ์ ไม่ได้พูดเรื่องโกหก ไม่ได้ใส่ร้ายใคร
ด้าน นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นผู้แทนรับมอบหนังสือและร่วมพูดคุยกับครอบครัวน้อง 8 ขวบ เปิดเผยว่า พ่อแม่ของน้อง 8 ขวบ ได้ยื่นหนังสือเพื่อตรวจสอบการทำงานของ พม. สุราษฎร์ธานี จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ โดยจะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้อง และฝากให้พ่อ-แม่ คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดขอฃตัวเด็ก ซึ่งพ่อ-แม่ ก็รับปากที่จะดูแลเด็กให้ดีที่สุด และไม่ได้มีการพูดถึงในประเด็นอื่น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถแยกตัวเด็กออกมาจากผู้ปกครองได้ เนื่องจากต้องรอการตัดสินของศาลก่อนในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง พม. ได้ร้องต่อศาลไต่สวนกรณีฉุกเฉินในกรณีนี้ไปแล้ว แต่ศาลให้ไต่ส่วนในกรณีปกติ เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอที่ตะไต่ส่วนฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้ทาง พม. ได้เตรียมข้อมูล ให้ได้มากที่สุดสำหรับการไต่สวนในวันที่ 17 มิถุนายนนี้
ต่อมา ด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ซึ่งเดินทางมาแสดงเจตนารมณ์ให้กระทรวง พม. ดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดและรวดเร็วมากขึ้น โดยบอกว่า ขณะนี้พ่อ-แม่ กำลังทำร้ายน้อง 8 ขวบ และทำให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ทั้งยังใช้น้อง 8 ขวบเป็นโล่ห์กำบัง ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็อ้างเด็กตลอดเวลา
อย่างการพิมพ์ลายนิ้วมือที่ สน. ทองหล่อ เมื่อวานนี้ พ่อกับแม่สามารถสลับกันขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่ชั้น 2 ได้ แต่ไม่ยอม อ้างว่าต้องพาลูกไปด้วย อีกทั้งเมื่อบอกให้ใช้อุปกรณ์ปกปิดใบหน้าเด็ก ก็กลับบอกว่าเด็กไม่มีความผิด แต่ถ้ามีภาพใบหน้าน้องออกไปผู้เผยแพร่จะมีความผิด
จึงมองว่าครอบครัวนี้อาจเป็นภัยคุกคามของศาสนาและสังคม ด้วยมีการตีความกฎหมายและ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่คลาดเคลื่อนไป ใน ม.27 ว่าสื่อมวลชนหรือใครที่นำภาพของเด็กไปเผยแพร่มีความผิด ซึ่งจริง ๆ แล้วคนที่เผยแพร่เป็นคนแรกคือแม่และครอบครัวของน้อง 8 ขวบเอง พร้อมเตือนสติไปยังคนที่สนับสนุนว่าสิ่งที่ทำอยู่กำลังเป็นการทำร้ายเด็กเช่นกัน
อีกทั้งครอบครัวยังปกปิดความจริงกับเด็กว่าขณะนี้สังคมรู้สึกกับตัวเด็กและครอบครัวอย่างไร ทำให้เด็กรู้แค่ว่าตนเองได้รับการยกย่อง เคารพ บูชาเท่านั้น นอกจากนี้ ยังฝากไปถึงสภาทนายความ ให้สอบมรรยาททนายธรรมราชฯ และให้กระทรวงดีอี ตรวจสอบการ้ผยแพร่เนื้อหาบนเพจ “นิรมิตเทวาจุติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews