จับตาโรดแมปฟุตบอลไทย หลังช้ำใจชวดไปบอลโลก ล่าสุด เฮดโค้ชแดนปลาดิบ “มาซาทาดะ อิชิอิ” ชงแผนระยะยาวให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายก็คือการเจียรไนเยาวชนนักเตะเจเนเรอชั่นใหม่ให้ครบเครื่อง สู้ศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า
ขณะที่การเฟ้นหาศูนย์หน้าดาวยิงเสริมทัพให้กับ “ช้างศึก” ทาง “อิชิอิ” ก็มุ่งเน้นด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน” อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯถึงเรื่องดังกล่าว โดย “ดร.ชาญวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนรู้ปัญหา เพราะศูนย์หน้าเกือบทุกสโมสรฟุตบอลส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะต่างชาติ ดังนั้นเราจะต้องเปิดโอกาสให้นักเตะไทยได้โชว์ฝีมือ เพื่อให้มีประสบการณ์ในการแข่งขันมากขึ้น
“สิ่งที่เราให้แนวคิดไปเนี่ย ทุกคนก็รู้ถึงปัญหาว่าศูนย์หน้าเกือบทุกสโมสรเลยส่วนใหญ่จะใช้นักเตะต่างประเทศเพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย ทำยังไงที่เราจะเปิดโอกาสให้นักเตะไทยได้ลงมากขึ้น เพื่อเราจะได้เห็นว่าเด็กเรามีประสบการณ์มากขึ้นในระดับที่เราจะเล่นสูงขึ้น เช่นในซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมในอนาคต”
และเมื่อถาม “ดร.ชาญวิทย์” ถึงประเด็นที่นายกรัฐมนตรี “นายเศรษฐา ทวีสิน” เสนอให้ใช้บริการโค้ชชาวไทยมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ เพราะต้องการให้โค้ชชาวไทยได้แสดงฝีมือในเวทีโลก โดยยกตัวอย่างในสมัย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน
ซึ่งเรื่องนี้ “ดร.ชาญวิทย์” กล่าวว่า การทำทีมฟุตบอลควรผสมผสานระหว่างโค้ชชาวไทย และโค้ชต่างชาติ ซึ่งในระดับเยาวชน ควรใช้โค้ชคนไทยเพราะสื่อสารกันได้ดีกว่า แต่ในระดับทีมชาติชุดใหญ่ ควรใช้โค้ชต่างชาติ ซึ่งตรงนี้เราควรให้โอกาสโค้ชอิชิอิในการทำทีมชาติไทยก่อน
“ก็คือเป็นประเด็นมานานแล้ว มันเป็นยุทธศาสตร์ที่เรียกว่าสลับกันไปสลับกันมา คือถ้าเป็นแนวคิดของทางเทคนิคที่จะนำเสนอ ชุดเด็กชุดเยาวชนควรจะเป็นโค้ชคนไทย สื่อสารการอธิบายวัฒนธรรมอะไรต่างๆค่อนข้างจะเข้าใจและครอบคลุม แล้วก็รู้จักเด็กมากกว่า
ถ้าเป็นลักษณะของโค้ชชุดใหญ่อันนี้ก็ต้องให้สิทธิสมาคมฯ ให้สิทธิท่านนายกฯเลย ที่จะเลือก ที่เราคิดว่าดีที่สุด แล้วก็พัฒนาไปสู่เป้าหมายที่ทางสมาคมตั้งไว้ ตอนนี้มันก็ตรงเป้าแล้ว ตอนนี้ได้ อิชิอิ เพียงแต่ว่าขอให้เขามีโอกาสได้ทำงานในระยะยาวอีกสักนิดนึงเท่านั้นเอง”
“ดร.ชาญวิทย์” กล่าวอีกว่า วันนี้การทำทีมชาติก็ยังคงดำเนินการต่อไป ต้องมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ วันนี้เราทุกคนสู้ไม่ถอย แต่ต้องยอมรับว่า ทุกอย่างไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ทุกอย่างต้องใช้เวลา
“มันก็ผ่านมา ทุกยุคทุกสมัย ตรงที่เราพลาดก็คือระดับโลกที่เราจะไปฟุตบอลโลกหรือเข้ารอบลึกๆ ทุกคนก็จะส่วนใหญ่ก็จะมาหยุดอยู่ตรงนี้ แต่เราก็สู้ต่อแล้วก็ทำงานต่อเพราะว่าฟุตบอลไม่มีโชคช่วยนะจริงๆแล้ว มันไม่มีโชคช่วย มันต้องทำงานกันอย่างหนักแล้วก็พัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าปีสองปีแล้วทุกที่ทุกประเทศใช้เวลาพอสมควร”
ทั้งนี้ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้กล่าวให้กำลังใจนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยทุกคน โดยเน้นย้ำเรื่องการฝึกซ้อม การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่า เราจะประสบความสำเร็จแน่นอน
“ก็ให้กำลังใจทุกคนที่มาเล่นในนามทีมชาติไทย ไม่มีใครไม่อยากประสบความสำเร็จ แต่ฟุตบอลอย่างที่บอกแล้วมันต้องอาศัยการฝึกซ้อม อาศัยขวัญกำลังใจ อาศัยผู้เล่นคนที่ 12 แล้วก็อาศัยทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นลักษณะของทีมฟุตบอลจริงๆ มันไม่มีความสำเร็จมาจากคนใดคนนึงนะครับ มันต้องมาจากการทำงานเป็นทีมจริงๆเพราะฉะนั้นสมาคมมีหน้าที่ซัพพอร์ตก็ทำหน้าที่ต่อไป
โค้ชเองผู้เล่นเองมีหน้าที่พัฒนาทางด้านเทคนิค แล้วก็แท็กติก ที่จะลงไปเล่นแล้วก็มีจิตใจที่มุ่งมั่นเข้มแข็ง แล้วก็พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แล้วก็มีผู้เล่นคนที่ 12 เป็นกำลังใจอยู่ตลอดเวลาผมเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จได้แน่นอนครับ”
ทั้งหมดนี้ก็คือความคืบหน้าล่าสุดของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยในการเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมายใหญ่ที่คนไทยทั้งประเทศตั้งตารอดูความสำเร็จต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews