ผ่านไปแบบผลลัพธ์ออกมา “ไม่มีอะไรตื่นเต้น” จากที่หลายฝ่าย “บิ๊วอารมณ์” กันมาหลายวันว่า“การมัดรวม” 3-4 คดีสำคัญการเมืองวันนี้(18มิ.ย.)ตั้งแต่ 1.“คดีทักษิณ112” 2.“คดีถอดถอนนายกฯเศรษฐา 3.คดียุบพรรคก้าวไกล และ 4.คดี พรป.เลือกสว.
อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะมีสักคดี ทำให้เกิด “แผ่นดินไหวทางการเมือง” เกิด “ความเปลี่ยนแปลง”ในเชิงอำนาจการเมือง โดยเฉพาะ การจับตาไปที่ทั้ง“นายกฯในตำนาน”ผู้มีบารมีนอกทำเนียบฯอย่าง“นายทักษิณ”และ นายกฯในตำแหน่งอย่าง “เศรษฐา”ที่บังเอิญมามุขเดียวกันกับอาการ “ป่วยโควิด”เมื่อถึงจังหวะพีค ๆ ในอาการ“ลูกผีลูกคน”ราวกับจะไม่มั่นใจ แม้ จะ “เสริมใยเหล็ก”ด้วยการไปใช้บริการ “อ.วิษณุ”มาช่วย
โดยที่สุดทั้ง 3 คดีที่อยู่ใน “ศาลรัฐธรรมนูญ”ก็มีการ “เคาะสรุปจบ”เพียงเคส “พรป.เลือกสว.”ที่ศาลรธน.เคาะ ว่า “ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ”ไม่กระทบกระบวนการเลือกสว.ที่กำลังดำเนินอยู่ ส่วนคดี 40สว.ถอดถอน“เศรษฐา”และ คดี“ยุบก้าวไกล” ศาลมีการนัดคดีใกล้ ๆ กัน
โดย “คดีถอดถอนนายกฯ” ศาลสั่งให้ส่งหลักฐานคดี ภายใน 15 วัน นัดพิจารณาต่อ 10 ก.ค.นี้ ซึ่งมีการส่ง “ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์” เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็น พยานปากเดียว “ในขณะที่คดี ล้มล้างการปกครอง“ยุบก้าวไกล” ศาลนัดพิจารณาคดีต่อวันที่ 3 ก.ค. และ นัดตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค.67 ที่2คดีนี้มีการวิเคราะห์ภาพใหญ่ที่ “ฝ่ายอำนาจ” ยังจำเป็นต้องใช้บริการทั้ง “ทักษิณ”ผ่าน“นายกฯเศรษฐา” ประเมินกันว่า“เศรษฐา” น่าจะได้ไปต่อยาว ส่วน “พรรคก้าวไกล”ต้องลุ้นว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ดังนั้น ถือว่า เคสคดี“ทักษิณ”ใน “คดี112และพรบ.คอมฯ”กลายเป็น “ไฮไลท์”สุดจากที่โดน “ตีโอบ”ดักหน้าดักหลัง จากบรรดา “โจทย์เก่า”ทั้ง “หมอวรงค์”และอดีตคนกันเอง อย่าง “ตู่-จตุพร”ที่ออกมา “บิ๊ว”ทั้งการวิเคราะห์ และเชิงข้อมูล ว่ามี “สัญญาน”ว่าวันนี้“หนีชัวร์” ไม่ว่าจะเป็นการปูดข้อมูล “ถุงขนมภาค2”2พันล้าน จ่ายผ่าน “นายบ่อนกาสิโน”ที่มาเก๊าที่ทำเอา “กระเพื่อม”จากพรรคเพื่อไทยไปถึงศาล จนถูกมองมาในจังหวะก่อน “เข้าด้ายเข้าเข็ม”
คดี112 ทักษิณ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณา “การให้ประกันตัว” ที่แม้ที่สุดวันนี้“นายทักษิณ”จะ “รอดคุก”ได้รับอนุญาต “ปล่อยตัวชั่วคราว” ระหว่างการพิจารณาคดี หลังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 500,000 บาท และได้รับการประกันตัวจากศาล โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ โดยให้วางหนังสือเดินทางกับศาล หากจะออกนอกประเทศต้องได้รับอนุญาตจากศาลเท่านั้น โดยเจ้าตัวนั่งรถออกไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์เพียงโบกมือทักทาย “นักข่าว”จากในรถ
หากแต่ยังมี“ติดปลายนวม” “ทนายวิญญัติ”ก็เตรียม “เช็คบิล”ฟ้องดำเนินคดี“หมอวรงค์”ว่าด้วยการออกมาปูดข่าว “ถุงขนมภาค2”โยงการ “ประกันตัว” โดยบอกว่า“เชื่อว่า ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐาน ไม่ให้น้ำหนักข่าวลือหรือข่าวโคมลอยและขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อยื่นฟ้องหลักหลายร้อยล้านบาทในสัปดาห์หน้า”
ส่วนในคดี ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 19 ส.ค.67ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุ “พยานฝ่ายจำเลย”ได้ต้องดูพยานชั้นสอบสวนว่าเพียงพอหรือไม่ ในวันตรวจพยานหลักฐานจะได้เห็นข้อชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงคลิปวีดีโอที่นำมาอ้างอิง โดยมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบสวนให้สิ้นกระแสความ มีข้อไม่สมบูรณ์หลายประการ แม้จะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาญาจักรก็สามารถแสดงหาพยานหลักฐาน รวมถึงนักข่าวเกาหลีที่สัมภาษณ์นายทักษิณก็มีชื่อชัดเจน แต่ไม่มีการไปสอบปากคำ
ที่ทั้งหมดแม้การฉายภาพ การรอดคุกของ“ทักษิณ”จะไม่สบอารมณ์“โจทย์เก่า”หลายคนที่ต้องการเห็น “นักโทษชาย”กลับเข้าไปสัมผัสเรือนจำ และไม่ถูกติดกำไรอีเอ็ม อย่างที่คิดทำนองเห็นมั้ยยังเป็นยังคงเป็น“นักโทษเทวดา” หากแต่ในภาพใหญ่ ก็ถูกมองได้เช่นกันว่า“ผู้กุมดีลฝ่ายอำนาจเก่า”ได้มีการ “จองจำ”“ทักษิณ”ให้เป็น “ผู้ต้องหา”แบบกันไว้อีกชั้นก่อนจะถึง วันที่ 22ส.ค.67 ที่เขาจะพ้นโทษ และกลายกลับมาเป็น“เสือติดปีก” ในขณะอีกด้าน
ก็ถูกมองว่า การเมืองไทย ยังคงแกว่งไกวพร้อมพลิกผันจนส่งผลกระทบภาคเศรษฐกิจ “ตลาดหุ้น” อย่างที่สะท้อนผ่านอาการของ “ตลาดหุ้นไทย”ในช่วงที่มีการ “บิ๊วอารมณ์”ที่ตกฮวบกระทั้งถึงวันนี้ ที่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังเกิดภาพความชัดเจนขึ้นทางการเมืองผ่านคดีการเมืองวันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews