สอดแทรกจังหวะหวังให้ “อ.วิษณุ”ที่เพิ่งประเดิมช่วยดูคำชี้แจง “คดีถอดถอนนายกฯ” ให้มาช่วยเคลียร์คัต“ตัดจบ”อีกวาระ ระหว่างนัวศึก“ซักฟอกงบประมาณ”ในสภาฯแถมมีภาพความชัด 4 คดีการเมือง “ทักษิณ112 ถอดถอนเศรษฐา ยุบก้าวไกล และ พรป.เลือกสว. วันที่ 18มิ.ย.ที่ผ่านมา กับปม “ศึกเกาเหลาใส่เส้น”การชิงอำนาจ”2บิ๊กปทุมวัน”
ที่ต่างฝ่ายต่างมี “ตั๋ว”ที่ฝ่ายอำนาจ“ถือหาง” จนถือเป็น การเมืองวงกรตำรวจ ที่เกิด เอฟเฟ็กต์ กระทบในวงกว้างลุกลามถึง“ทำเนียบฯ”ลามถึง “นายกฯเศรษฐา”ในฐานะดูแล “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ช่วงการ “แลกหมัด”ปะทะกันหลายยกที่ยืดเยื้อ แบบที่ ที่มีข่าวผลลัพธ์การตัดสินข้อกล่าวหาความผิดสับสนพลิกไปพลิกมาหลายตลบ ระหว่าง “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.กับ “บิ๊กโจ๊ก”รองผบ.ตร. อันมี “ปัจจัย”ปมตัดเกมการชิงเก้าอี้ “ผบ.ตร.”คนถัดไปของ เข้ามาเกี่ยว และถูกมองมี “มือที่สาม” “เท้าที่สี่”ในสตช.เข้ามาแจมช่วย “ยำใหญ่”ซ้ำทั้ง2บิ๊ก
โดยเฉพาะน่าสนใจที่จู่ๆเมื่อวาน(19มิ.ย.)มี“เอกสารหลุด”เป็นร่างหนังสือคำสั่งนายกฯที่ยังไม่มีการลงนามจาก “นายกฯเศรษฐา”เนื้อความทำนอง ให้ “บิ๊กต่อ”ที่ถูกสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ หลังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานนายก สรุปได้ข้อเท็จจริงพอจะดำเนินการตามกระบวนการปกติต่อไปได้โดยส่งเรื่องไปให้สตช ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยระบุด้วยว่า เคยมีคำสั่งสำนักนายกลง วันที่ 18 เม.ย.67 ให้ “บิ๊กโจ๊ก” กลับไปปฏิบัติราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ก่อนแล้วท่ามกลางข่าวว่าจะมีการให้ “บิ๊กต่อ”กลับกรมปทุมวันเพื่อร่วมดูแลในงานพิธีการในเดือนก.ค.67จากนั้นจะมีการขยับจัดการเคลียร์กับ “บิ๊กโจ๊ก”ออกมาในทรง “จบแบบเจ๊ากันไป”และ “บิ๊กโจ๊ก”อาจมีโ อกาสเข้าชิง “ผบ.ตร.”
อย่างที่“อ.วิษณุ”ระบุในการแถลงผลคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่นายกฯตั้งให้ “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ”เป็นประธาน ยอมรับมีความขัดแย้ง 2 ฝ่าย
และความไม่เรียบร้อยใน สตช.ในทุกระดับเกิดคดีความร้องเรียนฟ้องร้อง แถมลามไปยังองค์กรอิสระจึงนำมาสู่ผลสรุปรายงาน ว่า กรณี ให้“บิ๊กโจ๊ก”กลับไป สตช.ตั้งแต่ 18 เม.ย.67 แต่วันเดียวกันมีการตั้งกรรมการอีกชุด สอบสวนทางวินัยและตามมาด้วยคำสั่งอีกฉบับให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งปมนี้กฤษฎีกามีมติว่า “คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ให้ สตช.กลับไปทำให้ถูก ส่วนกรณี “บิ๊กต่อ” เนื่องจากไม่มีอะไรจะต้องสอบสวนแล้ว จึงส่งให้กลับไปปฎิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตามเดิม ยืนยันว่า การส่งตัวกลับทั้ง 2 คน ไม่ใช่ “การฟอกขาว” หรือทำให้ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สิ้นสุดลงได้
แต่เชื่อว่าคำกำชับของนายกฯ ที่ขอให้ปรองดองในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ก็น่าจะเป็นไปได้ก่อนย้ำว่า ไม่ใช่การเกี๊ยะเซี้ย และไม่ใช่แค่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องที่มีตำรวจกระทำผิดกฎหมายและท้ายสุดเชื่อว่าตำรวจที่กระทำผิดจะต้องรับโทษตามกฎหมาย
ส่วนที่มีเอกสารคำสั่งนายกฯ หลุดออกไป หลุดไปได้อย่างไรนั้นไม่ทราบ เพราะในเวลาที่ตนนั่งแถลงอยู่นายกฯ ยังไม่ได้เซ็นคำสั่งให้ “บิ๊กต่อ” กลับ สตช. ทั้งนี้ยอมรับว่า ในส่วนของ“บิ๊กโจ๊ก”มีโอกาสกลับไปเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยยังไม่มีกรอบเวลาในการตรวจสอบเพราะในกฎหมายตำรวจเองนั้นก็ระบุชัดเจนว่า จะไม่เอาเหตุผลนี้ มาเป็นเหตุสกัดกั้นการดำรงตำแหน่งหรือเลื่อนตำแหน่งของบุคคล ที่กฎหมายระบุไว้
กระนั้นก็น่าสนใจปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆที่ทำท่าว่าจะยังไม่อยากให้เรื่องนี้จบแม้รัฐบาล “นายกฯเศรษฐา”จะออกมาในท่วงทำนองรีบ “ปิกจ๊อบ”ให้ อ.วิษณุ”แถลง จบแบบเจ๊า ไม่ว่าจะเป็น “รังสิมันต์ โรม”จากก้าวไกลที่ออกมา “ดักคอ”บอกว่า ผิดหวังผลสอบ “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” คิดว่า “วิษณุ” มาจะได้อะไรมากกว่านี้ ทั้งที่สังคมรอฟังคำตอบ แต่กลับไม่เห็นการตรวจสอบที่แท้จริงว่าคืออะไรก่อนถามดัง ตัวการใหญ่เว็บพนันที่แท้จริงคือตำรวจหรือไม่
เช่นเดียวกับ “ทนายตั้ม”ที่นัดนักข่าวแถลงใกล้ๆทำเนียบฯ ถึงเรื่องนี้ โดยขอโทษประชาชนว่าคดีที่ดำเนินการกับ “บิ๊กต่อ”ยังไม่สำเร็จแต่มีผลออกมาแต่ก็ไม่กลัวที่ “บิ๊กต่อ”จะกลับไปเป็น ผบ.ตร. และ ปูดข้อมูลอ้างว่ามี “ดีลลับ”ฝ่ายการเมืองให้หยุดดำเนินคดี เพื่อแลกกับการที่ “บิ๊กต่อ”และ “บิ๊กโจ๊ก”กลับตำแหน่งเดิม
โดยจะมีภารกิจใหญ่ในเดือนหน้า เมื่อเสร็จ “ผบ.ตร.” จะลาออก และตนจะได้รับเงินจำนวนมากแต่ได้ปฏิเสธไป เพราะเป็นกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน และไม่หวั่นที่จะถูกตามเช็กบิล โดยยังยืนยันที่จะมีการเกาะติดคดี “บิ๊กต่อ”ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
