Home
|
ข่าว

ทนายอนันต์ชัย นําทัพ! แจ้งเอาผิดเพิ่มเด็กเชื่อมจิต

 

 

 

 

วันนี้ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถ.พหลโยธิน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และ น.ส.ชลิดา หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เดินทางเข้าแจ้งความดําเนินคดีเพิ่มเติมกับเด็กเชื่อมจิตพร้อมแอดมินเพจนิรมิตเทวาจุติ 60 คน และ ทนายธรรมราช

 

 

 

 

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตนยังมองว่าเด็ก 8 ขวบ เป็นเหยื่อ แต่ทุกครั้งที่มีการดําเนินคดีกับสื่อหรือคนที่เห็นต่าง ครอบครัวมักจะอ้าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพื่อเป็นเกาะคุ้มกันทุกครั้ง อีกทั้งล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาน้องเชื่อมจิตมีการไลฟ์สดเปิดหน้าเปิดตาต่อหน้าสื่อมวลชนระบุว่า “จะเอาพวกตนให้ติดคุก” ทําให้จําเป็นต้องแจ้งความดําเนินคดีน้องเชื่อมจิต เนื่องจากกฎหมายมาตรา 73 วรรค 2 บัญญัตไว้ว่าถ้าเด็กกระทําความผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ให้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองเด็ก

 

โดยจะมีเจ้าหน้าที่ พม. เข้ามาเกี่ยวข้องจึงขอให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนโปรดเข้าใจ ว่าจําเป็นต้องดําเนินคดีทั้งหมด 19 กรรม ส่วนกรณีที่แอดมินเพจเดินทางเข้ามาแจ้งความเอาผิด 4 สื่อนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น เพราะแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ดำเนินคดี เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานที่มากพอ

 

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่สําคัญคือการโพสต์ประกาศขอเรี่ยไรเงินของทนายธรรมราช จากประชาชนเพื่อมาใช้ต่อสู้ทางคดี ซึ่งคัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม จึงจําเป็นต้องแจ้งความเอาผิดด้วย

 

โดย นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนได้รวบรวมพยานหลักฐาน กรณีประกาศเรี่ยไรเงินของทนายธรรมราช เพื่อมาแจ้งความดําเนินคดีกับตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) โดยมีหลักฐานชัดเจน รวมถึงยังมีการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่เป็นทนายความมาทนายธรรมราชยังไม่เคยมีการเสีบภาษี ซึ่งได้ขอให้ตํารวจตรวจสอบเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทอีกด้วย

ด้าน น.ส.ชลิดา หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่ากรณีที่แม่เด็ก 8 ขวบเคยพูดว่า “รักน้องทำไมทำกับน้องแบบนี้” ตนอยากจะบอกว่า “เราไม่ได้รักน้อง แต่เราสงสาร” ที่พ่อแม่ทำกับน้องแบบนี้ ควรจะรักลูกให้ถูกทาง ตอนนี้พวกคุณกำลังทำร้ายเด็กคนนึงอยู่ และน้องมีอาการหนักขึ้นทุกวันพวกเราแค่อยากช่วยเด็ก ยืนยันว่าไม่มีวันวัตถุประสงค์ทำร้ายเด็กแต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ ทนายอนันตชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากใจคนเป็นพ่อที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ แนะนําว่าควรปรึกษายุวประสาท ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางให้ช่วยรักษาเด็กและตัวแม่เองถ้ายอมมาสารภาพต่อสังคม ตนจะยอมถอนแจ้งความให้ในส่วนของตนเอง เพื่อตัวของเด็กและต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง

ขณะนายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมในเรื่องของการพัฒนาการของเด็กวัย 8 ขวบ ว่าจากการสังเกตพบน้องอยู่นิ่งได้ไม่เกิน 3 นาที จากภาษากายค่อนข้างเครียด เหมือนต้องทําตามคําสั่ง ซึ่งมีปัญหาทางพัฒนาการอย่างแน่นอน อีกทั้งเด็กยังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สร้างสตอรี่ที่เป็นเท็จ ในอนาคตเด็กจะอยู่ยากในสังคม และทั้งหมดเกิดจากการกระทำของพ่อและแม่

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube