กลายเป็น “งานงอก” สำหรับ “นายกเศรษฐา” หลังทำท่าว่าจะโดน ทัวร์ลง “รัฐบาลเพื่อไทย” กำลังถูกโจมตีจากวาทกรรม “ขายชาติ” ที่ถูกปลุกผีวนลูปกลับมาหลอน และทำท่าจะลุกลามบานปลายคล้าย “ดิจิทัลวอเล็ต”
ทำให้แม้แต่ “เสี่ยหนู-อนุทิน” มท.1 หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาล ยังถอย ไม่นำ เรื่องติดปลายนวมจากการประชุมครม.ครั้งก่อน (18มิ.ย.) ที่ “รองนายกฯอ้วน” สายตรง “นายใหญ่-ทักษิณ” แม้จะให้ “สุริยะ” นั่งหัวโต๊ะ จังหวะ “นายกฯเศรษฐา” ลาป่วยโควิด แต่มีหนังสือไปยัง กระทรวงมหาดไทยของ “เสี่ยหนู”
ให้ศึกษาการแก้กฎหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการช่วยภาคอสังหาฯ ต่างชาติ ซื้อคอนโดฯ ได้ 75% ถือครองได้ 99 ปี เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.วันนี้ (25มิ.ย.)
อย่างที่เห็น วันนี้ “นายกฯเศรษฐา” ต้องรีบแจงข้อครหา การแก้ไขกฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่เดินเพิ่มเป็น 99 ปี ซื้อคอนโดเพิ่มเป็นร้อยละ 75 ที่สมัย “รัฐบาลลุงตู่” พรรคเพื่อไทยก็เคยออกมาวิจารณ์นโยบายในลักษณะเดียวกัน ว่าเป็นการ “ขายชาติ” โดย “นายกเศรษฐา” ย้ำว่ากำลังให้ไปศึกษาเป็นเรื่องของการเช่าระยะยาว ไม่ใช่การขายที่ดิน และตรงนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการขายชาติ
หลังจากที่พยายามอธิบายว่า เป็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพราะปัจจุบันมีกฎหมายอยู่แล้ว คือประมาณ 30 ปี แต่ทางรัฐบาลคิดว่าถ้าเกิดจะให้เป็นธรรมไปจึงขยายไป 99 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ขายขาด เอื้อประโยชน์นายทุน ส่วนเรื่องการถือครองคอนโดของชาวต่างชาติ จากเดิมที่ 49% ขยายเป็น 75 % นั้น มีรายละเอียด ว่าคนที่มีสิทธิ์โหวตได้อยู่ที่ 49 % เท่ากับคนไทยก็ยังเป็นใหญ่อยู่คือ 51% ซึ่งในส่วนที่ปรับขึ้นจาก 49% เป็น 75% นั้นตรงนี้ ไม่มีสิทธิ์โหวต หรือออกเสียงใดๆ เพียงแต่เข้ามาอยู่อาศัยได้เท่านั้น
เรียกว่าแม้จะ “นายกฯ” และผู้คนในรัฐบาลจะพยายามอธิบาย แต่กระแส “ทัวร์ลง” ก็ยังแรง ไม่แต่การถูก “ย้อนศร” ว่าฃ “พรรคเพื่อไทย” ตอนเป็นฝ่ายค้านก็โจมตี “นายกฯลุงตู่” ว่าออกกฎหมายลักษณะเดียวกันว่า “ขายชาติ” จนตอนนั้น“รัฐบาลลุงตู่” มีการถอนมติครม.ร่างกฎกระทรวงต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้ไม่เกิน1ไร่ออกไป เพราะ ทนเสียงวิจารณ์ “ขายชาติ” ไม่ได้แม้เอาเข้าจริงกฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน99ปีมีมาตั้งแต่สมัย
“รัฐบาลทักษิณ” ปี2545 แล้ว อย่างที่ “ทักษิณ” เองก็เคยยอมรับผ่านรายการ Care คิด เคลื่อน ไทย (21 ก.ค.65) ตอนโจมตีนโยบายขายที่ดินให้ต่างด้าวของ “ลุงตู่” เช่นกันว่า สมัยก่อนตนคิดให้เช่า 99 ปี ที่ตอนนั้นสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เอาไปทำต่อ ปรากฏว่าตอนผมคิดให้เช่า 99 ปี บอกผมขายชาติ ถ้าผมคิดก็บอกว่าผมขายชาติ แต่ถ้าตู่คิดก็บอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในหนนี้ นอกจากถูก “ย้อนศร” ทำนอง “ว่าแต่เขาอิเหนาทำเอง” แล้ว เรื่องราวยังทำท่า จะลามเข้าตัว“นายกเศรษฐา” เองในฐานะที่เคยเป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และครอบครัวยังทำธุรกิจนี้อยู่ อย่างที่“สว.สมชาย แสวงการ” เจ้าเก่า ที่เคย “เปิดหัว” เกาะติดเรื่อง “ดิจทัลวอเล็ต” และ การตั้ง “ทนายถุงขนม” ออกมา
“เปิดหัว ผ่านFBล่าสุด ว่า “มติ ครม.ในมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ แก้กฎหมาย 2ฉบับ พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ขยายเช่าเป็น99ปีจาก 30ปี และเพิ่มโควตาต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียม 75% เป็นนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อนายทุนอสังหาริมทรัพย์ที่กลุ่มบริษัทของครอบครัวของ “นายเศรษฐา” และ กลุ่มบริษัทในเครือชินวัตรและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบครัวรัฐมนตรี สส.บางคนถือหุ้นอยู่
ดังนั้นมติ ครม. ดังกล่าวจึงน่าจะเข้าข่ายการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญหลายมาตรา อาทิ มาตรา185 มาตรา186 และอาจผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในหลายมาตรา หากมีผู้ยื่นต่อป.ป.ช.ดำเนินคดีและป.ป.ช.ชี้มูลว่า มีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ป.ป.ช.ต้องดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองต่อไป และความผิดเรื่องนี้ สส. สว.สามารถยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170ด้วยเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
