มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่หวังจะฉุดประเทศให้เดินหน้า ของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ของ “อนุทิน ชาญวีรุกล” แก้ไขกฏหมาย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับ เรื่องการถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดของต่างชาติ
จากเดิม 49% เป็น 75% และเรื่องการเช่าที่ดินระยะยาว หรือการถือครองที่ดิน เพิ่มจาก 50 ปี เป็น 99 ปี จนนำมาซึ่งเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ ว่าเป็นการเอื้อให้กลุ่มนายทุน เนื่องจาก นายกฯ เศรษฐา ก็มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากข้อครหาเอื้อกลุ่มทุนแล้วช่วยพวกพ้องแล้ว ยังมีอีกข้อหาที่ค่อนข้างใหญ่โต และร้ายแรงมาก
อาจซ้ำรอยอดีต นั่นคือ ข้อกล่าวหาว่า “ขายชาติ” สำหรับความพยายามเปลี่ยนเช่าที่ดิน 50 ปี เป็น 99 ปี เพราะในอดีต ปี 2545 รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ออกกฎกระทรวงมหาดไทย กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติมาแล้ว คือให้ชาวต่างชาติผู้มาลงทุน จะต้องลงทุนในประเทศไทย เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท และไม่น้อยกว่า 5 ปี ถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ และต้องอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยเท่านั้น ถูกต่อต้านอย่างหนักในยุคนั้น
ต่อมาในสมัย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ 2 ปีก่อน ก็จะผลักดันกฎกระทรวงดังกล่าวด้วย และก็ถูกวิจารณ์หนัก จนต้องถอยไปตั้งหลักอีกครั้งเช่นกัน ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเศรษฐา เกี่ยวกับการช่วยเหลือกลุ่มอสังสหาริมทรัพย์ ในครั้งนี้ ก็อาจจะต้องจบเร็วกว่าที่คิด เพราะนอกจากถูกครหาเอื้อประชุมโยชน์กลุ่มทุน ช่วยเหลือพวกพ้องแล้ว แถมยังอาจถูกมองว่า”ขายชาติ” อีกครั้ง และนั่นอาจเป็นที่มาของการที่ “อนุทิน” ไม่นำเข้าหารือ ในที่ประชุมครม.ครั้งล่าสุด
จะเห็นได้ว่า หลายรัฐบาลพยายามฝ่ากระแส เอื้อนายทุน หรือ ขายชาติ แต่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จแบบเป็นรูปธรรม ส่วนรัฐบาล”เศรษฐา” จะเดินหน้าต่อ
หรือถอยร่นเพียงแค่นี้ ยังเดาไม่ออก เพราะหลายนโยบายที่พยายามจะทำ ก็ติดๆ ขัดๆ เดินหน้าไม่สะดวกไปเสียทุกอย่าง แม้จะบริหารประเทศด้วยเสียงที่มั่นคงในสภาถึง 314 เสียงก็ตามดูกันง่ายแค่ดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจ เรือธง ยังไปไม่ถึงไหนเลย การกระตุ้นเศรษฐิกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ จะไปได้แค่ไหนนั้น
จึงยากจะตอบ มีเพียงท่าทีของ “นายกฯนิด” เท่านั้นที่ย้ำว่าจะทำ โดยชี้แจงถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินการ ว่า เป็นข้อเสนอจากกระทรวงการคลัง เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นการขายขาด และในทุกๆ ประเทศก็มีลักษณะเช่นนี้อยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เอื้อนายทุนใดๆ ทั้งสิ้น และเสนอให้ไปศึกษาเรื่องการเช่าที่ดินระยะยาว ไม่ได้เป็นการขายที่ดิน จึงไม่เกี่ยวอะไรกับการขายชาติ
ดังนั้นหลังจากนี้ ผลจะเป็นอย่างไร คงต้องให้ “อนุทิน” เจ้ากระทรวงมหาดไทย ดำเนินการก่อน เบื้องต้นบอกว่า ต้องมีการวิเคราะห์ทั้งผลบวก ผลลบ ข้อกังวลของประชาชนให้ดีก่อน และสำคัฐที่สุดต้องปกป้องประโยชน์ของประเทศให้มากที่สุด
ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุด การดำเนินการเรื่องนี้ อยู่ในขั้นตอนของ “กรมที่ดิน” พิจารณาร่างฯ ตามมติ ครม.ที่ได้สั่งการมา ส่วนหลังจากนี้ กระแสวิจารณ์วิพากษ์วิจารณ์ จะหนักหนาสาหัสเพียงใดจะทำให้ “รัฐบาลเศรษฐา” ยอมถอยร่นเพื่อตั้งหลักอีกครั้ง เหมืนอรัฐบาลในอดีตอีกหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป เพราะข้อครหา”ขายชาติ” นั้น คงไม่มีใครอยากรับไว้กับตัวอย่างแน่นอน
และที่สำคัญที่สุด พรรคเพื่อไทยเคยออกตัวแรงคัดค้านอย่างหนักแน่น เมื่อครั้งรัฐบาล”ลุงตู่” พยายามผลักดัน 2ปีก่อน มาตอนนี้จะพลิกกลับเป็นผู้ดำเนินการเองก็คงกระไรอยู่ ประชาชนคงจะสับสนน่าดู
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews