พลตำรวจโทคำรบ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตามที่เลขากกต.ได้แถลงข่าวตนได้ตั้งข้อสังเกตในการแถลงข่าว ว่าอาจจะเตรียมพร้อมไม่ดี เพราะมีการพูดจาในลักษณะวกไปวน จึงทำให้ตนสามารถสรุป ได้ว่า 3 ประเด็น
คือ กกต. พบเห็นสิ่งผิดปกติ ระหว่างการลงคะแนน โดยแยกเป็นเรื่องคำร้องเรียนไว้ 3 ประเด็น คือ เรื่องของการร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆของผู้สมัครที่ไม่ครบและไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ระดับอำเภอ-จังหวัด ซึ่งกกต. ระบุว่าไม่ถูกต้องประมาณ 65% และมีบัตรถูกร้องเรียนประมาณ 800
นั่นหมายความว่ามีผู้คุณสมบัติไม่ครบประมาณ 600 กว่าราย และพบว่ามีคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกอาจจะไม่เรียบร้อยติดมารับคำร้องประมาณ 3 เรื่อง ซึ่งแค่ 3 เรื่องควรระบุได้ว่าเป็นเรื่องใดบ้างแต่กับไม่ระบุ
ส่วนเรื่องการร้องเรียนการลงคะแนนไม่สุจริตและเที่ยงธรรม โดยพลตำรวจโทคำรบ อ้างว่าสามารถจำตัวเลขที่เลขากกต.แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีทั้งหมด 47 เรื่อง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ อาศัย ปปง.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวนคลี่คลาย
ซึ่งกรณีดังกล่าวพลตำรวจโทคำรบตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ยังไม่รับรู้ในเรื่องของการพิสูจน์แต่มาด่วนสรุปว่าสุจริตและเที่ยงธรรม และจะใช้อำนาจตามมาตรา 42 ว่าหลังจากลงคะแนนได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการลงคะแนนโดยสุจริตและเที่ยงธรรมจึงประกาศรับรองสว.ซึ่งขัดแย้งกับที่เคยระบุไว้ว่ายังค้างคาอยู่ 47 เรื่อง
และในมาตรา 42 ระบุว่าหลังลงคะแนนควรเก็บไว้ 5 วันเป็นอย่างน้อยซึ่งสามารถเก็บไว้กี่วันก็ได้ จนสามารถพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมจึงค่อยประกาศว่าถูกต้อง
พลตำรวจโท คำรบ กล่าวอีกว่า เดิมวันนี้อยากจะแจ้งเพียงแค่มาตรา 32 แต่หลังจากพิจารณาแล้วคาดว่าจะต้องนำมาตรา 157 เข้ามาประกอบด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews