ประธานวุฒิสภาคนใหม่ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประมุขสภาสูง “มงคล สุระสัจจะ” สว.กลุ่มบริหารราชการแผ่นดิน และความมั่นคง
จากจังหวัดบุรีรัมย์ โดย “ประธานมงคล” มีชื่อเล่นว่า “จ้อน” เกิดวันที่ 9 ส.ค.2495 ที่ อ.หนองโดน จ.สระบุรี อาศัยวัดเป็นที่พักเรียนหนังสือ มีความฝัน อันสูงสุด คือ เรียนจบอาชีวะแล้วก็ออกมาหางานทำช่วยเหลือครอบครัว จบระดับ ปวช.ที่โรงเรียนพณิชยการพระนครศรีอยุธยา ก่อนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในคณะรัฐศาสตร์ ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นปลัดอำเภอ ไปรับใช้ประชาชนในชนบทบ้านเกิด
จากนั้น ชีวิตของ “มงคล” ก็เปลี่ยนไป เพราะเมื่อเข้าเรียนรามคำแหง ในปี 2516 เป็นช่วงเวลาการเมือง ดุเดือดของเดือนตุลาคม ก็เข้าร่วมกลุ่มทำกิจกรรมกับ “กลุ่มพัฒนาการศึกษาชนบท” และหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 “มงคล” คือ 1 ในนักศึกษา ที่ต้องเข้าป่าจับปืนต่อสู้กับรัฐ ภายใต้ร่มธงพรรคคอมมิวนิสต์ประเทศไทย ในพื้นที่ภาคใต้อยู่เกือบปี จึงออกมาเรียนต่อจนจบ และรับราชการ เป็นปลัดอำเภอ ครั้งแรก ปี 2522
เส้นทางราชการของ “มงคล” โดดเด่นขึ้น หลัง ปี 2532 ตอนย้ายมาเป็นปลัด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้พบกับ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนปัจจุบัน ซึ่งเวลานั้นเป็นรองผู้ว่าฯปทุมธานี ซึ่งต่อมา”เสริมศักดิ์” สนับสนุนให้ “มงคล” ได้เข้าเรียนวิทยาลัยการปกครอง ก่อนก้าวสู่การเป็นนายอำเภอ หลังเรียนจบ เป็นนายอำเภอครั้งแรกที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี
จากนั้น เมื่อ “เสริมศักดิ์” ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ นครพนม “มงคล” ก็ตามไปเป็นนายอำเภอศรีสงคราม ก่อนย้ายมาที่ อ.ธาตุพนม, อ.บ้านนา จ.นครนายก และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนขยับไปเป็นรองผู้ว่าฯศรีสะเกษ กระทั่ง ปี 2551 ย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้รู้จักกับ “เนวิน ชิดชอบ”
และช่วงปลายปี 2552 สมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “โดยมี “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” เป็น มท.1 ได้โยก “มงคล” จากผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน และเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ในปีถัดมา ก่อนที่ช่วงบั้นปลายชีวิตราชการ ได้รับการเสนอชื่อ ชิงตำแหน่งปลัดมหาดไทย แต่ “มงคล” ขอถอนตัวแสดงเจตจำนงไม่รับตำแหน่งดังกล่าว และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมปกครอง ไปใช้ชีวิตหลังเกษียณเป็นเกษตรกรอยู่ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ มาระยะหนึ่ง
ก่อนจะลงสมัคร สว. และฝ่า 3 ด่าน ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัง และระดับประเทศ ได้เข้าสภา พร้อมกับถูกมองเป็น สว.สีน้ำเงิน เป็นเต็ง 1 ในตำแหน่งประมุขสภาสูงมาตลอด เพราะมีความใกล้ชิดกับผู้มากบารมี ซึ่งเป็นครูใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย และได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิก เป็นประมุขสภาสูงในที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
