Home
|
ข่าว

ยุบก้าวไกล-ยื้อเศรษฐา?

 

 

 

อยู่ในอาการคล้ายๆกันทั้งผู้คนใน “พรรคก้าวไกล” และตัว “นายกเศรษฐา” ที่วันเวลาชี้ชะตา “ยุบพรรค” และ “ถอดถอน” นับถอยหลังงวดใกล้เข้าไปทุกขณะทั้งวันที่ 7 ส.ค.ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดวินิจฉัยคดีก้าวไกลล้มล้างการปกครอง และถัดไป วันที่ 14ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ก็นัดวินิจฉัยคดีถอดถอนเศรษฐา จากตำแหน่งนายกฯกรณีผิดจริยธรรมตั้ง “ทนายถุงขนม” เป็นรัฐมนตรี กับอาการ “ดิ้นสู้สุดตัว”

 

 

หากจะต่างตรงที่ เคสของ “ก้าวไกล” อาการและทิศทางการเคลื่อนไหว แบบรับรู้ชะตากรรมว่าวันที่ 7 ส.ค. จะเข้า หลักประหารทางการเมืองถูก “ยุบพรรค” แน่ อย่างที่แม้แกนนำอย่าง “วิโรจน์” หรือ “โรม” จะออกมาแสดงความมั่นใจว่าไม่น่าจะโดนยุบพรรคหรือเกิดสถานการณ์ “งูเห่าสีส้มภาค2” อย่างที่มีข่าว “ไหลออก” ไปราว30คนใน 3 พรรค ภูมิใจไทย เพื่อไทย พลังประชารัฐ กลุ่ม “ผู้กองนัส” แต่ก็ปรากฏการทำแคมเปญของ “ก้าวไกล” ออกมานอกจากการนัด “รวมพล” ในวันที่ 7 ส.ค. ที่พรรคแล้ว ยังประกาศทำนอง “ยุบพรรค” แล้วจะมีการตั้งพรรคใหม่สู้เพื่ออุดมการทางการเมืองต่อ โดยให้ “ไหม-ศิริกัญญา” เป็น “หัวหน้าพรรค”

 

ที่ทิศทางของก้าวไกลดังกล่าว “รศ.ธนพร ศรียากูล” ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย วิเคราะห์ โดยเชื่อ ว่า ก้าวไกล มี “แผนสำรอง” ที่จะรองรับสถานการณ์ที่พรรคถูกยุบ เพราะมีประสบการณ์ ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของพรรคในช่วงนี้ ทั้งการปล่อยคลิปในลักษณะปลุกระดมมวลชน และการประกาศจัดอีเว้นท์ในวันอ่านคำวินิจฉัย ส่วนข่าว “งูเห่าสีส้ม” จะเลื้อยเข้าป่า “อ.ธนพร” มั่นใจว่า ไม่มี เป็นเพียงข่าวลือ เพราะสมาชิกก้าวไกลเคยเห็นบทเรียนจากการยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว เมื่อเปลี่ยนขั้วย้ายพรรคก็ไม่ประสบความสำเร็จ และยังมองว่าก้าวไกลเป็นพรรคที่ใช้อุดมการณ์ทางความคิดขับเคลื่อนพรรค มากกว่าใช้เงิน แม้ถูกยุบและตั้งพรรคใหม่ ก็ยังจะได้รับความนิยมจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่สส.ก้าวไกลจะย้ายขั้ว

 

ในขณะที่หันมาทาง “นายกฯเศรษฐา” กลับอยู่ในอาการลุ้น ทั้งการเตรียมส่งร่างคำแถลงปิดคดี อย่างที่ เมื่อวาน (29ก.ค.) “อ.วิษณุ” ตอบคำถามกับ “นักข่าว” ยืนยันว่านายกฯ จะส่งคำแถลง ปิดคดีทันตามกรอบ 31 ก.ค.แน่ แต่ก็ออกตัว ว่า ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพียงแต่ทราบกว้าง ๆ ว่าเป็นการสรุปประเด็นต่าง ๆ ที่เคยยื่นต่อสู้ไปประมาณ 2-3 หน้า ในขณะที่มีรายงานอ้างแหล่งข่าวเพื่อไทยออกมาทำนอง ในคำแจงที่มีถึง32หน้า อ้าง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีข้อจำกัดทางกฎหมายทำนองมาในกระบวนท่า “บกพร่องโดยสุจริต”

 

โดยมีการอ้างเหตุไม่ได้เชี่ยวชาญการเมือง เลยไม่รู้ว่า “นายพิชิต” เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่อันเดอร์ใครโดยเฉพาะไม่ได้ทำตาม “ทักษิณ” สั่ง ส่วนที่ไปหา 3 ครั้งเพราะรู้จักกันมานาน

 

โดยกรณีของ “นายกฯเศรษฐา” จะถูกถอดถอนหรือไม่ “อ.ธนพร” กลับมองว่า “นายเศรษฐา” จะรอด แต่หากไม่รอด แคนดิเดตนายกฯคนต่อไป จะเป็น “แพทองธาร” หรือไม่ “ชัยเกษม” เพราะระบบเป็นแบบนั้น นอกจาก 2 คนนี้ตอบปฎิเสธลำดับต่อไปก็ต้องเป็น “นายอนุทิน” แต่ส่วนตัว ยังคงมั่นใจว่า สมการนี้จะไม่เกิดขึ้น

 

โดยอ้างว่ามีข้อมูลและเหตุผลสนับสนุนมากพอ ที่ชี้ว่า “เศรษฐา” จะยังอยู่ในตำแหน่งนายกต่อไปส่วนที่ ตอนนี้ “ภูมิใจไทย” ดูมาแรง จะแซง “เพื่อไทย” แล้ว แม้จะมีสถานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่ก็มีการแข่งขันกันอยู่ในที นั้นยังมองว่า “ภูมิใจไทย” ยังพอใจ ที่จะอยู่ในสภาพ “เนขี่นาย หนูขี่นิด” และ “ภูมิใจไทย” ก็เล่นการเมืองเช่นนี้มาตลอด โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคแกนนำแต่เป็นพรรคร่วมที่ทรงอิทธิพลที่พรรคแกนนำต้องขอความช่วยเหลือ

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube