ผ่านฉลุย 319 ต่อ 145 แบบไม่ต้องมี “คู่เทียบ”สำหรับ “นายกคนใหม่” “นายกอิ๊งค์” “แพทองธาร ชินวัตร”นายกคนที่ 31 ของประเทศไทย ที่จะถูกเรคคอร์ดไว้เป็น “ประวัติศาสตร์ประเทศไทย” ตั้งแต่การเป็นนายกที่มีอายุน้อยที่สุด คือจะครบ 38 ปี ในวันที่ 21 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ทั้งเป็นนายกฯผู้หญิงคนที่ 2 ต่อจาก “คุณอายิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ทั้งการเป็น “นายกฯ” ที่มาจาก “ตระกูลชินวัตร”คนที่ 3 ไม่นับรวม “อาเขย” “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ,“สมัคร สุนทรเวช”และ”เศรษฐา”ที่ได้รับสนับสนุนจาก “ระบอบทักษิณ”
เป็น “ระบอบทักษิณ”ที่กำลังถูกจับตาด้วยความกังวลจากหลายฝ่าย ที่เคยเป็น “โจทย์” ไม้เบื่อไม้เบากันมาหลายสิบปี กับ“กระบวนท่า”การจะกลับมา “ติดปีก”ผงาดในอำนาจการเมืองของ “ทักษิณ” ในจังหวะ “เปลี่ยนผ่าน”มาจากยุค 3ป.ของ“นายกลุงตู่” ณ พ.ศ.นี้ ที่ตอนแรกเกิดสภาพ “3ก๊ก” “ฝ่ายอนุรักษ์” “ระบอบทักษิณ” และ “พรรคเด็กก้าวไกล” กระทั่งเกิด “ภาพชัด”หลัง “พรรคเด็ก” ถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ”สอยไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค.กับบทบาทจากนี้ของ “ทักษิณ”ที่จะเปลี่ยนจาก “เบื้องหลัง” สู่ “เบื้องหน้า”อย่างชัดเจน
ไม่แค่ภาพออเดิร์ฟ การปิดเกมเร็วหลัง “อดีตเศรษฐา” โดน “ศาลรัฐธรรมนูญ” สอย 14 ส.ค.เพียง 2 ชั่วโมง ก็นัด “แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล”เข้าไปตั้งนายกฯกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า แม้จะยังมี “ชนัก”ในคดีที่ต้องไปตรวจพยานกับศาลอาญาในวันที่ 19 ส.ค.แต่ก็ยังอุตสาห์ มีคิวไปสปีคกิ้งปัญหาเศรษฐกิจ เวทีใหญ่วันที่ 22 ส.ค. โดยแม้จะยังไม่ได้รับ “ใบบริสุทธิ์” วันที่ 31 ส.ค.
เรียกว่าสำหรับผู้คนทั้งฝ่ายการเมืองหรือประชาชนก็รู้สึกไม่ต่างกันว่า “ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก” ตั้งแต่กระบวนการตั้งรัฐบาล จาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จนเกือบพา “พรรคร่วม”ซวยไปด้วยกับครหา “ถูกทักษิณครอบงำ”อาจมี “นักร้อง”ไปยื่น “ยุบพรรค”เหมาเข่งจนต้องเกิดกระบวนการของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ที่ประชุมส.ส. ไปจนถึงที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคที่ดันชื่อ “อุ๊งอิ๊งค์”หลังเกิดภาพการคัดค้านจากส.ส.เพื่อไทย
หลังจาก“ฝ่ายอนุรักษ์”ออกมาตั้งแง่กับชื่อของ “ชัยเกษม” ว่าเคยมีท่าทีหนุนแก้ ม.112 จนเหมือนจำเป็นต้องไหลมาที่ชื่อของ “อุ๊งอิ๊งค์”ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ที่ก็เช่นเดียวกับข้อสรุปของ “พรรคร่วมรัฐบาล”กระทั่งมาถึงการโหวตในสภาที่ยังอุตสาห์มี “ส.ส.งูเห่า”จากไทยสร้างไทย ไม่ตกขบวนมาร่วมด้วยช่วยโหวตอีก 5 เสียง
ที่ปรากฎการณ์ตั้ง “นายกฯอิ๊งค์”แบบ “ม้วนเดียวจบ” ดังว่าถูกวิเคราะห์ทั้งมิติการเป็น “นายกฯตัวประกัน”ที่สุ่มเสียงอย่างที่เคยมีข่าว “คุณหญิงอ้อ-พจมาน”ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกสาวคนเล็กมาเสี่ยงกับ “ไฟการเมือง”และในมิติการยอมเออออกับ“ระบอบทักษิณ”ของ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”จากภาพ “ปฏิญญาเขาใหญ่”
และ “ภาพในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “คุณแม่”ของ “เศรษฐา” ที่ภาพโดยรวมส่งผลให้ซีกฝ่ายที่เคย“ต่อต้านระบอบทักษิณ”มาหลายยุคสมัย เกิดกระเพื่อมตั้งคำถาม “ฝ่ายอำนาจนำ”ปีกอนุรักษ์ฯอย่างที่ทั้ง “ตู่จตุพร”และ“เทพไท”วิเคราะห์ในทิศทางคล้ายกันว่าการตั้ง “อุ๊งอิ๊งค์”นายกฯจาก “ตระกูลชินวัตร”จะส่งผลกระทบนำพาไปสู่สถานการณ์ขัดแย้งของบ้านเมือง
โดยเฉพาะ“เทพไท”ที่วิเคราะห์ว่า “นายกฯอุ๊งอิ๊งค์”อาจมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรกับ “ทักษิณ”และ”ยิ่งลักษณ์” การที่ “ทักษิณ”เสี่ยงเอาลูกสาวคนโปรดมาเสี่ยงคุก ก็ต้องยอมรับจิตใจของผู้เป็นพ่อ ที่ยอมผลักดันให้ลูกไปเสี่ยงคุกเพื่อแลกกับอำนาจทางการเมืองของตัวเอง และให้รอดูเกมทางการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมว่าจะพลิกแพลงไปในทิศทางใด
แต่การออกมาแถลงจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐรวมถึงพรรคภูมิใจไทย ประกาศสนับสนุนนายกจากเพื่อไทยแสดงให้เห็นว่าเกมนี้ “ทักษิณ”กำลังขี่คอฝ่ายอนุรักษ์นิยม จนต้องยอมศิโรราบต่อ “ระบอบทักษิณ”สร้างความเจ็บปวดให้มวลชนคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณอย่างคับแค้นใจที่เห็นหัวขบวนของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ยอมเป็นเบี้ยล่างให้กับ “ระบอบทักษิณ” โดยไม่คิดจะต่อสู้หรือคัดค้านใดๆเลย อย่าลืมว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่งที่นำมาต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมืองกัน โดยไม่เห็นหัวประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews