สภาพเซ็งแบบ “สิ้นหวัง” “การเมือง” จากปรากฎการณ์ “เพื่อไทย”ส่ง“เทียบเชิญ” “ประชาธิปัตย์” เข้าร่วมรัฐบาลเมื่อวาน(28ส.ค.) กำลังขยาย “เอฟเฟ็กต์”ออกไปเป็นวงกว้างแบบ กินลึก” แบบกำลังหา “ตัวต้นเหตุ”ที่ท่าจะ“แดจาวู”ไปที่ “อดีตศัตรู”ของ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ที่กลับมา “แปลงร่าง” มาเป็น “ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่”
อย่าง “ระบอบทักษิณ” ที่เหล่าบรรดา“โจทย์เก่าทักษิณ”แบบ “เทพไท”แทนค่า ว่าเป็น “ตัวแปรสำคัญ” ในสถานการณ์ ที่กำลังทำให้ ไม่แต่จะมีปฏิกิริยา “รับไม่ได้” จาก“ผู้คน”ตั้งแต่ผู้บริหาร ส.ส. ยัน สมาชิกพรรค FC ของทั้ง 2 พรรค พท.,ปชป. ที่เคยเป็น “ศัตรูคู่แค้นแสนไม่รัก” เล่นกีฬาสีเสื้อ แบบ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” คนละขั้วความคิด อุดมการณ์ถึงขนาดเสียเลือดเสียเนื้อเสียน้ำตา กันมาตลอด 26 ปี พากันไปลาออกและบางส่วนแสดงท่าทีผ่านโลกโซเชียลหรือผ่านสื่อ แม้จะอยู่ในยุคที่มี“มาตรฐานจริยธรรม” จาก “ศาลรัฐธรรมนูญ”ที่กำลังหลอนให้เข็ดหลาบระวังตัวกับ คุณสมบัติ “รัฐมนตรีคนดี” ยามนี้ จะพากัน “ช็อคฟิวส์”
หากแต่ยังมี “ประชาชน” และรวมถึง บรรดาผู้คน จากหลายพรรค ที่ได้รับผลกระทบ เริ่มมีปฏิกิริยา “ทางลบ” ต่อสิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกัน คือไม่คิดว่าจะได้เห็นแต่ได้เห็น อย่างที่ “คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์”จากพรรคไทยสร้างไทย บอกเมื่อวาน(28ส.ค.) ว่า เป็น“การเมืองยุคเลอะเทอะ” ไร้จริยธรรม เริ่มต้นด้วยความไม่ตรงไปตรงมาและว่า การเมืองที่คิดแต่การแย่งอำนาจ เพื่อให้ได้เป็นนายก เป็นรัฐบาล ทั้งการตระบัดสัตย์ ละทิ้งอุดมการณ์ การใช้ “เงิน” และ “ตำแหน่ง” มาหลอกล่อคนจากพรรคอื่น โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และจริยธรรมอันดี
ทั้งที่นักการเมืองควรเป็นตัวอย่างให้กับสังคมและยังไม่ละอายใจ กล้าพูดออกมาว่า พร้อมที่จะดึงคนของพรรคการเมืองอื่นออกมาแบบเป็น “ก๊วน” ก็ได้ เพื่ออำนาจของตนเอง ทั้งที่พรรคการเมืองนั้นเขาไม่ได้เห็นชอบ ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย เข้าข่ายการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก่อนฝาก “นายกอุ๊งอิ๊ง” ในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่ให้ช่วยมาแก้ไขความเลอะเทอะทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับปฏิกิริยาจาก “พรรคพลังประชารัฐ” (พปชร.)ของ “ลุงป้อม”ที่วันนี้ก็เข้าร่วมประชุมพรรคและพปชร.ก็มีท่าทีออกมา ผ่าน “ไพบูลย์”ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ “นายกฯอิ๊งค์”เนื่องจากมีสัญญาประชาคมร่วมกัน จากการที่ พปชร.ลงมติเห็นชอบให้ “อุ๊งอิ๊งค์” เป็นนายกฯ และมีคำมั่น ว่าจะให้มีที่นั่งในคณะรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่นายกต้องดำเนินการตามที่ให้คำมั่นไว้
โดย “ไพบูลย์” อ้างถึงกฎหมายมาตรา 362 ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่า ที่โยงว่า ก่อนหน้านี้ “นายกอิ๊งค์”ออกมายืนยันว่ามี พปชร.เข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้นคนที่จะห่วงควรห่วงนายกฯ เพราะการไปให้คำมั่น แต่ไม่ปฏิบัติตามนั้นวิญญูชนก็จะว่าได้ อาจจะมีข้อครหาที่ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญก็เคยวินิจฉัยในคดีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนมาก่อนส่วน พปชร.เราสบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุข เรื่องที่เกิดขึ้น ท่านเฉย ๆ มาก
โดยทั้งหมดยังไม่นับรวมปรากฎการณ์ถอนตัวจากรัฐบาลเพื่อไทยอย่างเป็นทางการของพรรคเสรีรวมไทยโดย“ตู่ใหญ่-พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์”วันนี้(29ส.ค.) ที่มี “ติดปลายนวม หลักฐานการพบกับ“คนชั้น14”ถึง 2 ครั้ง โดย “ตู่ใหญ่”ยืนยัน ได้พบกับ “ทักษิณ” 2 ครั้ง คือ 14 พ.ค. 66 และ 10 ก.พ. 67 โดยทั้ง2ครั้งมีการพูดคุยเรื่องที่ “ทักษิณ”จะไม่เอา “ตระกูลวงษ์สุวรรณ” เข้าร่วมรัฐบาล แถม “ป๊าเสรี”ยังเปิดหลักฐานแชทไลน์ วันที่ 7 ม.ค. ที่มีการอ้างว่ามี sms จาก “นายกปู” กับ วันที่ 9 ม.ค. มีการส่งไฟล์ PDF มา หัวข้อเขียนว่า “หนังสือถอนร้องเรียน“ โดย “ตู่ใหญ่” ระบุว่า เป็นการขอให้ถอนเรื่องร้องเรียน “นายกฯเศรษฐา” ก่อนที่ต่อมา วันที่ 22 ม.ค. จะมีการทวงถาม การเซ็นหนังสือส่ง ป.ป.ช.
โดย “ตู่ใหญ่”ถูกมองว่าจะเป็น “พยานปากเอก”ที่จะทำให้ “คดีคนชั้น14” ที่กำลังมีการเดินเรื่องที่ไปจาก กสม.เอาผิดกับ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ “ทักษิณ” มีน้ำหนักที่จะเอาผิดทั้งขบวนการและอาจลามถึง “ทักษิณ” ที่ประเด็น “คนชั้น14” นี้ บังเอิญว่า “ผู้อาวุโสปชป.”อย่าง “นายหัวชวน”ก็ถูกระบุว่าสนใจติดตามเรื่องนี้ ไม่แต่มีแค่ “กลุ่มคปท.”ที่เคลื่อนไหวร้องยังหน่วยงานต่างๆก่อนหน้า ที่เรื่องนี้ถูกวิเคราะห์ว่าจะเป็นอีกหนึ่งปมที่จะถูกมัดรวมเป็น “กฐิน”กองใหญ่ ที่พา “ทัวร์”ไปลง “รัฐบาลอิ๊งค์” หาก “คนบ้านป่า”จะเป็น “เซ็นเตอร์” รวมศูนย์“กองกฐินการเมือง” ก็อาจมีหลายคณะที่จะไหลไปรวมการเฉพาะกิจที่ “บ้านป่า”
ที่คนเพื่อไทยเคยบอกว่าจะเผาป่าไล่
แต่ทำท่าว่าหลังจาก“พปชร.”พรรคลุงป้อม ถูกไล่ไปเป็น “ฝ่ายค้าน” กับ “พรรคเด็ก-ประชาชน”ก็มีบรรดา “นักร้อง”ทั้ง “นิรนาม”และ “เปิดหน้า” ทะยอยไปร้อง “องค์กรอิสระ” ทั้งการ“ยุบพรรคเพื่อไทย” จาก “การถูกครอบงำพรรค”จาก“ทักษิณ” และร้องตรวจสอบการ“ซุกหุ้น”ของ “อุ๊งอิ๊งค์”และจ่อๆว่าจะมีคนไปร้องเรื่อง จริยธรรม“สัญญาจะให้” อย่างที่ “ไพบูลย์”จั่วหัววันนี้ ศิริรวมก็เกือบ10เคส ที่ถูกมองว่าจะส่งผลต่อ “รัฐบาลอิ๊งค์”ในระยะ 6 เดือน ที่วันนี้(29ส.ค.)ยังอยู่ในช่วงฟอร์ม ครม.ที่กำหนดจะสะเด็ดน้ำศุกร์นี้(30ส.ค.) ก่อนนำครม.ถวายสัตย์ และลุยแถลงนโยบาย เพื่อเข้าบริหารประเทศได้ราวกลางเดือนก.ย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews