เมื่อประชาธิปัตย์ ที่มี “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” และ เดชอิศม์ ขาวทอง” เป็นผู้นำ มีมติ ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ด้วยคะแนน 43 ต่อ 4 เสียง ก็นำมาซึ่งความผิดหวังของหลายๆฝ่าย
โดยเฉพาะบรรดาแม่ยกกองเชียร์ และอดีตสส. และสมาชิก ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรรมการบริหารพรรคในชุดปัจจุบัน ที่วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานๆ ว่า “ประชาธิปัตย์ เปลี่ยนไป ไม่รักษาอุดมการณ์” ไปจับมือกับพรรคที่มีความต่างทางความคิดต่อสู้กันมานานเกือบ 30 ปี
และให้กำลังใจ กับ 4 เสียงที่พยายามต่อสู้ คัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาล อย่างเต็มความสามารถที่สุดแล้ว ของ 3 อดีตหัวหน้าพรรค กับ 1 ส.ส.รุ่นใหม่ ที่ประกอบด้วย “ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์- และสรรเพชญ บุญญามณี” ถึงขนาดบางคนยกให้ทั้ง 4 คือวีรบุรุษ เป็นตำนานผู้ปกปักษ์รักษาความเป็นประชาธิปัตย์ชุดสุดท้าย
“นายหัวชวน” ของบรรดากองเชียร์ประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.ตรังสมัยแรกกับประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน รวมเป็น สส.มาแล้ว 17 สมัย เป็นเวลารวม 39 ปี 6 เดือน เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายรัฐบาล โดยในเหตุการณ์ 6 ตุลา ถูกกล่าวหาเป็นคอมมิวนิสต์ พร้อมกับรัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคน เคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฏร 2 สมัย เป็นหัวหน้าพรรคเมื่อปี 2534 และนำประชาธิปัตย์ ชนะเลือกตั้งเป็นครั้งสุดท้าย ได้เป็นายกรัฐมนตรีสมัยแรก หลังยุคเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ส่วนสมัยที่สอง รับช่วงต่อหลังจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ จนต้องลอยตัวค่าเงินบาท สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ จนได้รับการขนานนามว่า “ซื่อสัตย์ มุ่งปฏิรูประบอบประชาธิปไตย และขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวง” แถมมีฝีปากที่เชือดเฉือนฝ่ายตรงข้ามได้รับฉายา “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง” และถือเป็นต้นแบบของพรรคประชาธิปัตย์ ในการต่อต้านระบอบ “ทักษิณ” มาอย่างยาวนานเกือบ30ปี จนถึงปัจจุบัน ที่แสดงท่าทีคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย
คนที่ 2 “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.15 สมัยจากสุราษฏร์ธานี เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงปี 2546-48 ต่อจาก “นายชวน” แม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็จุดยืนก็ชัดเจน ยึดมั่นในอุดมการณ์พรรค “ดำเนินการเมืองโดยวิถีอันบริสุทธิ์-ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชน-ไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ” ในการคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย
ส่วนคนที่ 3″จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” อดีตหัวหน้าพรรคอีก 1 คน เป็น ส.ส.มาแล้ว 11 สมัย แบ่งเป็น ส.ส.พังงา 6 และ บัญชีรายชื่อ 5 เคยได้รับตำแหน่ง ส.ส.ดาวรุ่ง หรือส.ส. ใหม่ดีเด่น จากสื่อมวลชนสายรัฐสภาในปี 2529 เคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง แม้จะเคยผิดพลาดนำพรรคร่วมรัฐบาลกับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในปี 2562 แต่ครั้งนี้ก็กลับตัวรักษาจุดยืนต่อต้านระบอบทักษิณ คัดค้านจนถึงที่สุด แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม
ส่วนคนสุดท้าย “สรรเพชญ บุญญามณี” สส.สงขลา 1 สมัย ถือเป็นต้นกล้าชั้นดี สายเลือดประชาธิปัตย์แท้ เป็นทายาทการเมืองของ”นิพนธ์ บุญญามณี” โดยเป็น สส.รุ่นใหม่ของพรรคเพียงคนเดียวที่ประกาศจะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเก่าแก่ ไม่ยอมให้ประชาธิปัตย์ ไปจับมือร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย
โดยให้เหตุผลว่าไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลไม่ได้ขาดเสถียรภาพ ที่จะต้องเอาเสียง เอาเกียรติภูมิของประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล กับพรรคที่เป็นคู่ปรับกันมานาน และให้ความเห็นว่าประชาธิปัตย์ ควรเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น ในการสร้างผลงานเพื่อฟื้นคืนศรัทธาของพรรคกลับมาอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ คือ 4 ส.ส.ผู้เป็นตำนานผู้พยายามรักษาความเป็นประชาธิปัตย์ ไม่ให้ไปร่วมผสมพันธ์กับเพื่อไทย
เพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย แต่สั่นคลอนฐานเสียง เกียรติภูมิที่สะสมมาอย่างยาวนานของพรรค แต่ท้ายที่สุดก็ฝืนมติของคนส่วนใหญ่ในที่ประชุมไม่ได้ หลังจากนี้ ต้องติดตามกันต่อไปว่า ผลการตัดสินใจครั้งนี้ จะทำให้ประชาธิปัตย์ เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง จะฟื้น หรือจะฟุบยิ่งกว่าเดิม เวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
