Home
|
ข่าว

ทัวร์ลงลุงวัคซีนช้าส่อโควิด3

ทัวร์ลงลุงวัคซีนช้าส่อโควิด3(click ดูวิดีโอ)

@ราวกับ แดจาวู ”วนลูป” ภาพซ้ำ ของปีที่แล้วกลับมาอีกรอบ ในจังหวะคนไทยคลายใจ จะหยุดยาวเทศกาล แต่กลับเกิดสภาพ ตระหนกระดับขวัญผวาในสัญญาน โควิด3 ที่ยกระดับจากความตระหนัก กลับมาครอบคลุมประเทศไทยอีกครั้งจาก คลัสเตอร์ 2 กลุ่มใหม่ โควิด3 ทั้งจาก จ.นราธิวาส และ ผับทองหล่อ สถานบริการย่านสุขุมวิท ที่กำลังกระจายไปทั่ว เดือดร้อนเสียหายทุกวงการ โดยเฉพาะแวดวงศิลปินที่ โดนเอฟเฟ็กต์เต็มๆจาก คลัสเตอร์ทองหล่อ หลายคนต้องยกเลิกคิวงาน และหลายอีเว้นต์กิจกรรมกิจการทางเศรษฐกิจภาคบริการท่องเที่ยว การเดินทาง โรงแรม ที่จองกันสำหรับวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่รัฐบาลให้หยุดยาว 9-16 เม.ย. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในกลับมาลุ้นหายใจไม่ทั่วท้องกันอีกครั้ง

@และยิ่งตอกย้ำในทิศทาง เมื่อ กทม.ออกมาล่าสุดวันนี้ สั่งปิดผับบาร์ 3 เขต เริ่ม 6-19 เม.ยนี้ เพื่อคุมการระบาดโควิด-19 โดย ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทุกแห่งในพื้นที่เขตวัฒนาและเขตคลองเตย ซึ่งเป็น Cluster ย่านทองหล่อ ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการทุกแห่งในพื้นที่เขตบางแค ซึ่งพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก สำหรับเขต ลาดพร้าว ห้วยขวาง พระนคร และเขตภาษีเจริญ ให้ปิดเฉพาะสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ ในขณะที่มี ”คุณหมอ” หลายท่านเตือนว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี และไม่เหมาะที่จะมีการตะลอนเที่ยว รวมถึงให้ระวังสถานที่เสี่ยงสถานบริการร้านอาหารสปานวด ที่ฝ่ายหมอจะมีเกรงใจไม่พูดตรงๆถึงสาเหตุหนนี้ ว่า อาจเกี่ยวข้องกับ ”ความล่าช้า” ในการกระจายวัคซีนของไทย แต่ก็ส่งสัญญานเป็นนัยๆว่าเกี่ยวกันกับทิศทาง ”โควิดขาลง” ที่รัฐบาล ศบค.เริ่มทุ่มไปที่การฟื้นเศรษฐกิจ แต่ให้น้ำหนักการกระจายวัคซีนโควิด ที่เป็นส่วนสำคัญภายใต้การจำกัดเพียง 2 เจ้า จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจจากประชาชน แม้ “ลุงทำเนียบฯ” กว่าจะฉีดได้ ก็เลื่อนมาสองรอบ และแม้รัฐมนตรีหลายคนรวมถึง ”รัฐมนตรี” ที่ถูกหาว่าไปผับกับทูต ก็ไม่ฉีดแต่รอหมอโรงพยาบาลตรวจก่อน

@ที่ความไม่มั่นใจดังกล่าวส่งผลให้ยอดการฉีดไม่ทันการสร้างภูมิคุ้มกันประเทศ75% ของคนในประเทศ จนทำให้ ”โควิด” ที่กลับไป ”อัพเลเวล” กลายพันธุ์ กลับมาระบาดอีกรอบ โดยประมาณการณ์ผ่าน ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 1 เม.ย. พบ ตั้งแต่ 28 ก.พ.ถึง 1 เม.ย.ได้รับการฉีดวัคซีนรวม 204,642 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 167,235 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 37,407 ราย ขณะที่ ข้อมูลการฉีดวัคซีนที่รวบรวมโดย Bloomberg ณ วันที่ 4 เมษายน 2564 ประเทศไทย พบอัตราการฉีดต่อวันอยู่ที่ 12,676 โดส ครอบคลุมประชากรเพียง 0.2% ซึ่งจากการประมาณการณ์การกลับสู่ “ภาวะปกติ” ของไทยที่ Bloomberg คำนวณจากอัตราการฉีดต่อวัน 12,676 โดสนั้น คาดว่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 75% ของประชากร

@ที่เมื่อหันกลับมาดูการนำของ ”ลุงทำเนียบฯ” ก็ยังคง ”วนลูป” เช่นกัน กับการออกมาเตือนโทษไปที่ ”ความหลวม” ของ ”ประชาชน” โดยไปพูดกับผู้ว่าฯนายกฯอบจ.เมื่อวาน (5เม.ย.64) ทำนอง ตอนแรกหวังว่าสงกรานต์คนไทยมีความสุข แต่ก็เกิดการแพร่ระบาดอีกจนได้ เพราะเกิดจากคนที่ไม่มีจิตสำนึก แม้ว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมา แต่ก็มีการฝ่าฝืน ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากจิตสำนึก ทุกคนต้องมีจิตสำนึกว่าจะช่วยกันอย่างไร ไม่เช่นนั้นเพียงแค่มาตรการต่างๆ ก็ไม่สามารถควบคุมได้ โดย โควิด-19 ทำเศรษฐกิจทุกประเทศตกต่ำหมด รัฐบาลต้องคิดว่าจะดูแลประชาชนอย่างไร แต่ทุกคนต้องหาวิธีที่จะช่วยเหลือตนเองด้วย

@ที่อย่าลืมว่า ครั้งก่อนในการระบาดภาค2ของ โควิดที่กดดันจน ลุงต้องจำใจ ออกทีวี วันที่22ธ.ค.63 โดย แถลงการณ์เรื่อง “การระบาดอีกครั้งของโควิด- เราต้องเข้มแข็ง” ลุงก็พูดทำนองเดียวกัน ทำนองว่า เราต้องจำไว้ว่า เพียงคนไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้านๆ ได้ ตนจึงต้องขอให้คนไทยทุกคนใช้ชีวิตในแต่ละวัน อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่สูงมากกว่าปกติ

@แน่นอนการออกมมา ”วนลูป” ของ ”ลุงทำเนียบฯ” ก็ตามมาด้วยอาการ ”ทัวร์ลงลุง” เช่นเคย โดยเฉพาะจากซีกการเมือง พรรคฝ่ายค้านพรรคก้าวไกล ที่ออกมา โจมตีว่า ให้”ลุงทำเนียบฯ ควรหยุดโทษคนอื่น ประชาชนรู้ทันรัฐบริหารโควิดล้มเหลว ทุกคนพร้อมเดินหน้านานแล้ว ใครกันแน่ที่ไม่พร้อม โดยระบุทำนอง รัฐบาลควรรู้ว่าโควิดจะอยู่กับพวกเราไปอีกซักพัก ถ้าอัตราการฉีดวัคซีนช้าขนาดนี้ การมีตัวเลขผู้ติดเชื้อบ้างในแต่ละวันนั้นไม่ใช่จุดวิกฤติ ไม่ใช่ต้องรีบสั่งปิดกิจการปิดพื้นที่ อย่ามัวแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้ซ้ำวนลูปเดิมไปเรื่อยๆ เพราะคนเราต้องมีชีวิต ต้องทำงาน ต้องให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ ทุกคนรู้ว่าวัคซีนเป็นคำตอบว่าจะได้กลับมาลืมตาอ้าปากเมื่อไร ดังนั้นเราต้องบริหารวัคซีนให้ทันการณ์ แม้ในระยะเริ่มต้นอาจจะมีความล่าช้าอยู่บ้าง แต่ถึงวันนี้ นายกฯและกระทรวงสาธารณสุขต้องยอมรับว่า ถ้าประเมินอัตราการฉีดวัคซีน ณ ปัจจุบัน การฉีดวัคซีนยังล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะถ้าเทียบกับสต๊อกวัคซีนที่มีอยู่ในประเทศตอนนี้ รวมถึงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ทางรัฐบาลออกมาพูดชวนเชื่อเมื่อก่อนหน้านี้ด้วย เหล่านี้เป็นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์และกระทรวงสาธารณสุขต้องรีบนำไปปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube