พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง สำหรับราคาทองโลก ที่ล่าสุด Gold Spot ทำ All-time high ใหม่หนุนให้ราคาทองในประเทศปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด 14 กันยายน 2567 สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาซื้อขายทองครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.05น. ราคาปรับขึ้น 100 บาท ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 40,500 บาท ขายออก บาทละ 40,600 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 39,764 บาท 68 สตางค์ ขายออก บาทละ 41,100 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ราคาทองในประเทศปรับขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 กันยายน มีเพียงแค่วันอังคารวันเดียวที่ปิดตลาดราคาปรับลง 100 บาท
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ถึงภาพรวมราคาทอง โดย “นพ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ที่ทำ All-time high ใหม่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายนที่ผ่านมานั้น มาจาก 2 ปัจจัย คือ 1. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECBและ 2. รายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด สร้างความมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 กันยายนนี้
“ต้องบอกว่าในสัปดาห์นี้มี 2 เรื่องที่เป็นข่าวออกมาจนทำให้ราคาทองคำ ทำ All-time high อีกครั้งหนึ่ง เมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา ข่าวที่สำคัญก็คือเรื่องของการที่ธนาคารกลางของยูโรโซนนั้น ปรับลดดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด ข่าวที่สองที่สำคัญก็คือเรื่องของ CPI ปีต่อปีลดลงไปมากจาก 2.9 เหลือ 2.5 รวมทั้งภาพรวมของ CPI รายเดือนและ PPI ที่ออกมาเมื่อคืนวันพฤหัสนั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ว่าอ่อนตัวลง”
“นพ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ดังนั้นเมื่อตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด รวมทั้ง ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ก็ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าส่งผลให้ Gold Spot ปรับตัวขึ้นทำ All-time high ใหม่ แตะ 2,565 เหรียญฯ
“ทั้ง 2 ประเด็นนำมาสู่ความคาดหวังของตลาดว่าในเมื่อธนาคารกลางของยุโรปลดดอกเบี้ยเยอะขนาดนั้น โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.5 เพื่อลดความห่างของดอกเบี้ยระหว่าง 2 ยูโรกับอเมริกาน่าจะสูงขึ้น ด้วยความคิดว่าเฟดน่าจะลดดอกเบี้ยได้ถึง 0.5 ก็เลยทำให้เกิดภาพรวมของการลงทุนในทองคำเป็นบวกอย่างมาก
ทองคำก็ปรับตัวสูงขึ้นทำ All-time high เมื่อคืนวันพฤหัส ตอนนี้มาอยู่ที่บริเวณ 2,565 เหรียญใน Gold Spot ซึ่งถือว่าเป็น All-time high” แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองโลกจะทำ All-time high ใหม่แต่สำหรับทองไทยกลับขึ้นไม่มาก นั่นเพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น
“ทองไทยปรับขึ้นในเช้าวันศุกร์ก็บวกกว่า 200 มาอยู่ที่ 40,450 เป็นราคาทองคำแท่งขายออก จากการที่เงินบาทนั้นแข็งค่าขึ้น ก็เลยทำให้ราคาทองของไทยนั้น ขึ้นเหมือนกันแต่ขึ้นไม่เยอะเท่ากับทองตลาดโลกที่ขึ้นมาประมาณ 40 เหรียญ ดังนั้นโดยองค์รวมก็จะเห็นได้ว่า ภาพรวมของราคาทองของตลาดโลกนั้น
ปรับตัวสูงขึ้นโดยที่ได้อานิสงส์หลักๆมาจากเรื่องของยูโร”
และเมื่อถามถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ล่าสุดมีการดีเบตของผู้ท้าชิงตำแหน่ง ระหว่างนางกมลา แฮร์ริส พรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกันซึ่งผลโพลชี้ว่า นางกมลา มีคะแนนเสียงมากกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น จะมีผลต่อราคาทองหรือไม่ “นพ.กฤชรัตน์” มองว่า ยังไม่มีผลต่อราคาทองในช่วงนี้
“ตอนนี้ต้องบอกว่าตลาดไม่ค่อยได้รับรู้กับข่าวเรื่องตรงนี้เท่าไหร่ ที่ภาพกลับไปกลับมาระหว่างสองคนที่พลิกกันไปพลิกกันมา ก็อาจจะยังไม่ได้รับรู้เพียงแต่ตลาดก็วิเคราะห์กันว่า ถ้าทรัมป์มางบประมาณขาดดุลน่าจะสูงถึง 5 ล้านล้านเหรียญในขณะที่ถ้ากมลามา งบประมาณขาดดุลน่าจะประมาณ 1 ล้านเหรียญกว่าๆ ดังนั้นตรงนี้ค่อยจะมีผลไปถึงตลาดทองคำ ดังนั้นโดยภาพรวมนี้ยังตอบได้ว่า น่าจะยังไม่มีผลใดๆ”
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาราคาทองคําอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% รวมทั้งติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯทั้งสองคนต่อไป ว่าจะมีการดีเบตครั้งถัดไปหรือไม่ รวมถึงคะแนนนิยมของผู้สมัครทั้งสองคน ซึ่งจะมีผลต่อความมั่งคั่งของสินทรัพย์ต่างๆด้วยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews