“รัฐบาลอิ๊งค์” เอาอยู่-น้ำไม่ท่วมกรุงเทพ?
ยังอยู่ในโหมดน่าห่วงกับสถานการณ์วิกฤติภัยธรรมชาติน้ำท่วมทุกทิศทั่วไทยที่สถานการณ์เดิม “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ที่เพิ่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มหรือ ศปช. มี “สหายใหญ่-พี่อ้วน ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะประชุมนัดแรกวันนี้ (18ก.ย.) เตรียมยุทธการ One Stop Service แก้ปัญหาภัยพิบัติ
ยังไม่ทันพิจารณาหลักเกณฑ์จ่ายเงินฟื้นฟูเยียวยาชาวบ้าน ก็ต้องเตรียมมือพายุลูกใหม่ “ซูลิก” ที่จะเข้าไทยกระทบซ้ำภาคเหนือ – อีสานตั้งแต่พรุ่งนี้ (19ก.ย.) โดยกรมอุตุฯมีการเตือน 33 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากไปถึงวันที่ 23 ก.ย และระบุชัดจังหวัดทางฝั่งอันดามันต้องเฝ้าระวังพิเศษ
โดย “รองนายกฯพี่อ้วน” ยืนยันรัฐบาลเร่งมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้นที่ภาคเหนืออีสานตามข้อสั่งการของ “นายกอิ๊งค์” โดยด่วน อย่างสมกับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจริงและจะมีการพิจารณาเรื่องการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว รวมไปถึงการพูดคุยกับเมียนมา เพื่อดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน และยังมีการหารือระบบการแจ้งเตือนภัยพี่น้องประชาชนด้วย
กระนั้นประเด็นที่หลายฝ่ายเป็นห่วงคือการรับมือกับ “พายุลูกใหม่” ที่จะมีผลกระทบฝนตกหนักทุกทิศทั่วไทยอย่างน้อยๆ 30 กว่าจังหวัดรวมถึงกรุงเทพฯ ว่า “รัฐบาลอิ๊งค์” จะ “เอาอยู่” หรือไม่ ยิ่งมีภาพความเสียหายความรุนแรงแบบที่ประชาชนไม่ทันตั้งตัว อย่างที่ จ.เชียงรายและจังหวัดทางอีสานที่ติดริมน้ำโขงเจอ ก็ยังทำให้เกิดความกังวลกับการบริหารจัดการสถานการณ์
โดยเฉพาะกับสถานการณ์พายุโลกใหม่ที่จะเข้ามา ที่มีคำเตือนแล้วว่ามาเร็วและแรงอย่างที่ “อ.ศศิน เฉลิมลาภ” จาก มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พายุน่าจะมาเร็วและแรงมากกว่าที่คาด พื้นที่สีเหลืองตามแผนที่ปภ.ในอีสานต้องเตรียมพร้อมวันนี้พรุ่งนี้ฝนมาจริงตอนรุ่งคืนพรุ่งนี้ (19) เข้าอีสานมาต่อวันศุกร์ 20 เป็นวันที่ภาคกลางและภาคเหนือเราต้องเฝ้าดูมันทั้งวันว่ามันจะหมุนปลิ้นไปทางไหน… เป้าใหญ่น่าจะสวิงไปที่เลย เพชรบูรณ์แถวภูเขาหล่มสักน้ำหนาว มาต่อพิษณุโลก สุโขทัย แพร่ แล้วไปทางลำปาง ตากนี้คือเย็นวันศุกร์ต่อกลางคืน หมดฤทธ์วันเสาร์ อาทิตย์ เมื่อหลายวันที่แล้ว ยังกังวลความต่อเนื่องของหางมัน และพลังติดตามจะถึงวันที่ 23-24 ตอนนี้เฝ้าดูน่าจะหายไปแล้ว
“อ.ศศิน” บอกด้วยว่า ใน2วันนี้ต้องเชื่อประกาศเตือนที่ออกมา จากแผนที่ของสำนักงานทรัพยากรน้ำและอย่ามัวแต่ดูหัวพายุนะครับ เพราะหางพายุกำลังดึงฝนมาทางฝั่งอันดามันหนักแน่ โดยเฉพาะภูเก็ต พังงา ระนอง ที่โดนมาหลายวันแล้วถ้าเจอซ้ำต้องระวังดินถล่ม โคลนไหล โดยหางยังพาด มาหาภาคตะวันออกชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และพาดมานครนายก เขาใหญ่เขื่อนขุนด่าน น่าต้องเฝ้าสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด แต่ละจังหวัดต้องมอบหมายให้อำเภอต่างๆตามเฉดสีเหลืองต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุนะครับ
ไม่ใช่แค่เฝ้าระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะระวังอย่างไรและว่าวันเสาร์-อาทิตย์น่าจะเป็นคิวที่น้ำจะลงมาทางเมืองเพชรบูรณ์ สุโขทัยและพิจิตรกำแพงเพชร นครสวรรค์ ต้องระวังน้ำล้นแม่น้ำป่าสักช่วงเหนือเขื่อนป่าสักน้ำน่าน น้ำยม ช่วงพิษณุโลก และทุ่งพิจิตร ต้องระวังพิเศษ ต่อมาก็คงลงบึงบอระเพ็ด ซึ่งต้องติดตามอาทิตย์หน้าว่าจะมีผลต่อภาคกลางหรือไม่
ในขณะที่การรับมือสถานการณ์น้ำท่วมของ กทม. ภายใต้การนำของ “ผู้ว่าชัชชาติ” ยุคนี้ที่ทุกครั้งของสถานการณ์น้ำท่วม หรือเกิดพายุฝนฟ้า มักปรากฏ “ภาพเปรียบเทียบ” ด้วยความกังวลจากประชาชนไปถึงภาพสถานการณ์น้ำท่วมปี 2554 ในสมัย “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ที่กรุงเทพฯถูก กองทัพ “น้องน้ำ” ตีแตก ทั้งที่ “นายกฯปู” สมัยนั้น ยืนยันว่า “เอาอยู่” มีการยืนยันจาก “นางวันทนีย์ วัฒนะ” ปลัดกรุงเทพมหานคร ว่าหนนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ ซ้ำรอยปี 54 แน่
เนื่องจากน้ำที่ท่วมอยู่ในบริเวณด้านบนของประเทศจะมีเขื่อนกักอยู่ ตอนนี้สิ่งที่กทม.ทำคือการเตรียมความพร้อมที่จะไปช่วยภาคเหนือ แต่พื้นที่ใต้เขื่อนจะมีการเช็กระดับน้ำที่ปล่อยลงมาจากเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งขณะนี้เขื่อนยังสามารถรองรับน้ำได้ ส่วนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯได้มีการเสริมเขื่อนทรายกั้นน้ำในบริเวณที่ยังฟันหลอเป็นที่เรียบร้อยแต่ยอมรับว่ากังวลกับ “rain bomb” ที่อาจทำน้ำขังบางจุด เนื่องจากระบบท่อระบายน้ำยังไม่มีการแก้ไข.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews