อาจถือเป็นครั้งแรกที่ “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร” ออกมาพูดถึงปมคดี “ดิไอคอน” ที่กำเป็น “ข่าวใหญ่” มาหลายวัน
ตั้งแต่วีคก่อนที่ “นายกฯอิ๊งค์” ไปต่างประเทศ และรัฐบาลถูก “นักร้อง” ค่ายบ้านป่านรวมถึงนักร้องหลายค่าย รุมถล่มทั้งปมร้องศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง และ ปม คดีตากใบของ “พล.อ.พิศาล” ที่หนีคดีจะหมดอายุความ 25ต.ค.นี้ ที่จู่ ๆ เมื่อวานก็มีข่าวว่า “ลาออก” จากส.ส.เพื่อไทยตัดวงจรลุกลามรัฐบาล
ที่แม้จะมีความพยายามโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม และขบวนการล้มรัฐบาล ที่ตั้งเป้าหมายจะล้มรัฐบาลให้ได้ใน 3 เดือน แต่ทำอย่างไรก็ปลุกกระแสไม่ขึ้นในจังหวะของเรื่อง “ดิไอคอน” และ “บอสพอล” รวมถึงเหล่าดาราแถวหน้ากำลังเป็นข่าวแบบเรตติ้งกระจาย จนผู้คนในทุกแวดวงพากันเข้ามาติดตามเกาะกระแสเรื่องนี้ ไม่แต่การเกาะติดของสื่อ นักร้องแนว ปัญหาสังคม หรือ เหล่าบรรดา “ทนายความ” ตัวท็อปของประเทศไทย กระทั่งมาถึงแวดวง นักการเมือง ที่ จู่ๆ ก็เกิดปม “นักการเมืองตบทรัพย์” ที่บังเอิญถูกตั้งข้อเกตว่าอาจหมายถึง “นักการเมืองคนหนึ่ง” ที่อยู่ “ฝ่ายตรงข้าม” กับรัฐบาล
โดยการออกมา สปีคกิ้งเรื่องนี้แบบเพิ่งจะมา “อินเทรนด์ต์” ของ “นายกฯอิ๊งค์” แม้จะเป็นแนว “ตามน้ำ” มาช้าดีกว่าไม่มา แบบ “มัดรวม” อย่างที่ออกตัว ว่า ที่ประชุม ครม. ไม่นิ่งนอนใจ น้ำเรื่องปัญหาการขายตรงและสินค้าออนไลน์มาถก โดยเฉพาะเคสที่กำลังเป็นข่าว โดยได้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดให้มีช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแส และ แจ้งความได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
รวมถึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งกำหนดมาตรการ และบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงให้ความรู้แก่ประชาชนถึงลักษณะธุรกิจขายตรง ให้ กระทรวงสาธารณสุข สั่ง คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการนำสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาจำหน่ายในระบบการขายตรงและการขายออนไลน์ และให้ กระทรวงการคลังตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดการประกอบธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ส่วนปมมีเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน หรือเกี่ยวข้องกับ ดิไอคอน ได้คุยกับ ผบ.ตร. ว่า
ต้องมีการสอบสวนต่อถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าใครทำอะไรอย่างไรบ้าง โดย ผบ.ตร.ยืนยันว่า จริงจังในเรื่องนี้ และหากเป็นคดีพิเศษ จะให้ ดีเอสไอ.เข้ามาช่วย ส่วนเรื่องการรับ “ส่วย” ได้ย้ำ ผบ.ตร.ไปแล้ว ว่าขอให้จัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะไม่อยากให้มีผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก ส่วนปมมี “เทวดา” ใน สคบ.นั้น “นายกอิ๊งค์” บอกว่า ในกรอบกว้าง ๆ เราไม่อยากให้ธุรกิจที่หลอกลวงชาวบ้านเกิดขึ้นอีก เพราะก็มีผู้เสียหายเห็นตามข่าวอยู่แล้ว และได้รับความเสียหายมากกว่าที่เราได้เห็นอีกเยอะ เราต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ตนได้สั่งการไปยังทุกฝ่ายแล้วว่าให้ดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ก่อนนำผลที่ได้มาแถลงแก่ประชาชนด้วย จะให้เกิดความสบายใจและทราบว่าถ้าต่อไปจะทำธุรกิจแบบนี้แบบนั้น จะต้องทำข้อมูลอย่างไรบ้างเพื่อจะไม่ให้ถูกหลอก ส่วนคลิปเสียงนักการเมืองเรียกรับผลประโยชน์ วิ่งเต้นช่วยเหลือในคณะกรรมาธิการ ประธานรัฐสภาได้สั่งการแล้ว เรียกว่า รัฐบาล
ในฐานะ “ฝ่ายบริหาร” ถูกมองว่าเริ่มออกมา ขยับ สั่งการ ในส่วนของ “หน่วยงาน” ที่ดูแล แม้บางหน่วยงานจะถูกครหาเรื่องสินบน “มีเทวดา” ไม่นับรวม “ฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่มีอย่างน้อย ๆ 4 คณะกรรมการธิการ ที่โดดเข้ามาเกาะกระแส ตรวจสอบปม ดิไอคอน ไม่ว่า จะป็น กมธ. ปปช. กมธ.สคบ. โดย พอยน์ ของฝ่ายนิติบัญญัติ” นอกจากมาแบบ “กวาดบ้าน” ที่ถูกอ้างอิงถึงว่าสามารถเคลียร์คดีนี้ได้แล้ว ยังมาในฐานะการตรวจสอบหน่วยงานฝ่ายบริหาร ที่ถูกกล่าวหาว่าให้การช่วยเหลือทางคดีกับ “บอสพอล” ที่ทำให้เหล่าบรรดา “นักการเมือง” ที่เป็น “รัฐมนตรี”
กระทรวงเกี่ยวข้องกับหน่วยงานเหล่านั้น ก็จำเป็นต้องออกมาขยับเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการขยับของ “ทวี” รมว.ยุติธรรม หรือ “สมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข อย่างที่ “ทวี” มอบหมายให้ ดีเอสไอ เกาะติดทรัพย์สิน ดิไอคอน คืนผู้เสียหาย โดยบอก หากเกิน 800 ล้านบาท จะตรวจสอบฟอกเงิน โดยยืนยัน รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นให้ปชช. ไม่มีอคติทำงาน ให้พยานหลักฐานเป็นผู้พูด
ในณะที่ “สมศักดิ์” ออกมาแจงแทนว่า อย. มีการตอบกลับ สคบ. เรื่องผลิตภัณฑ์ ดิไอคอนกรุ๊ป แล้ว ตั้งแต่ปี 62 ชี้ ในส่วนโฆษณา-ฉลาก ปรับไปแล้ว แต่คดีอาญาอยู่ในอำนาจตำรวจ ขอให้ช่วยกันติดตามข้อเท็จจริง ขณะที่ทางฝั่งตำรวจ “บิ๊กเต่า” ก็ออกมาประกาศเช่นกัน ว่า จะบวงสรวงไล่จับเทวดา ดำเนินคดี ถ้าผลตรวจคลิปเสียงเรียกรับ ‘ดิไอคอน’ เป็นจนท.จริง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
