หรือดิไอคอนจะจบแบบตากใบ?

จังหวะเหมือนจะซาๆ ปมคดี “ดิไอคอน” ที่เริ่มคลายตัวในเชิงคดีหลังจากบรรดา 18 บอส

 

 

 

ทั้ง “บอสพอล” และบรรดา “บอสดารา-เซเล่บ” ถูกจับกุมเข้าไปนอนในห้องขังได้หลายเพ-ลา นอกจากจะมี “คดีติดปลายนวม” ไปโผล่ที่บรรดา “ตัวละคร” ที่อยู่ในขบวนการนักร้อง ทนาย อินฟูฯ ที่ออกมา “จั่ว” เรื่องนี้ผ่านรายการโหนฯของ “หนุ่ม-กรรมชัย” ที่จู่ๆ เป็นอันต้องมี “เจ้ากรรม-นายเวร” ออกมา ไล่เช็กบิล ไม่ว่าจะเป็น “เอกสายไหม” ที่โดนเรื่องข้อมูลเท็จ หรือ “ทนายตั้ม” ที่โดนหลายดอก รวมถึงปม ให้โดยเสน่หา71 ล้าน แม้กระทั่ง ในส่วนของบรรดา “ผู้เสียหาย” บรรดา แม่ทีมต่างๆ ที่กำลังถูก “บอสพอล” ไล่เช็กบิลให้ทนายไล่ฟ้อง

 

 

 

โดย ละไว้ซึ่งการ “เชื่อม” ไปยัง “ฝ่ายการเมือง” นักร้องชาย ส.เสือ แต่กลับเชื่อมไปยัง “นักร้องหญิง ก.ไก่” ที่เคยเป็น “ต้นทาง” การร้องจากผู้เสียหายราว 80 ราย แต่ที่น่าสนใจคือคดีดิไอคอนใน “ภาพใหญ่” กำลังเข้าสู่โหมดการเปลี่ยนมือ “ผู้รับผิดชอบ” จาก ฝั่ง “ตำรวจ” ไปยัง “กรมสืบสวนคดีพิเศษ” (DSI) โดยตำรวจสอบสวนกลางเจ้าของคดี เตรียมโอนคดีให้ฝั่งDSIเข้ามาทำต่อ หลังจากคดีนี้เข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษ

 

 

 

ที่หากจำได้หากย้อนกลับไป วันที่ 16ต.ค.ยังเพิ่งมีภาพของ “ทนายตั้ม-เอกสายไหม” เพิ่งพา “สายลับ” เข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่DSI และมีการแฉว่ามีการ “ฝากคน” เข้ามาอยู่ในDSI เพื่อดูคดีที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ โดยวันนั้นมีการอ้าง พยานสำคัญ รู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูง เข้าพบรักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูล

 

 

 

โดย “เอกสายไหม” แถลงอ้างว่า ช่วงที่ธุรกิจ ดิไอคอน กำลังพีค และมีเทวดาเข้ามาเกี่ยวข้อง DSI ก็ถูกเทวดาแผลงฤทธิ์ เพราะในช่วงปี 64-65 เทวดาได้มีการฝากฝังข้าราชการคนหนึ่งมาฝังตัว ให้ดูหน่วยงานที่ดูคดีแชร์ลูกโซ่โดยตรง เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน คนของเทวดาจะได้คุ้มครองบริษัทได้ ตนและพยาน จึงมาเพื่อขอคำมั่น และคำยืนยันจาก DSI และ รมว.ยธ. ว่า เทวดาคนนั้นจะไม่แผลงฤทธิ์ @กระนั้นหลังจากคดีดิไอคอร ผ่านจุดพีค “18บอส” ถูกควบคุมตัวมีการยึดอายัดทรัพย์ และไล่ดำเนินคดีกลุ่มต่างๆ คู่ขนานไปกับการ “ย้อนศร” เช็กบิลผู้เกี่ยวข้องจากฝั่ง “บอสพอล”

 

 

 

ก็เริ่มปรากฏการณ์ทำลายความน่าเชื่อของ บรรดา “นักร้อง-ทนาย” ฝ่ายเริ่มต้นจุดพลุคดี “ดิไอคอน” และมีความพยายามโยง “ฝ่ายการเมือง” อย่างที่เห็นกับคดี ที่ทนายตั้ม-และเอกสายไหม โดน กระทั่ง “ภาพตัด” ไปที่ “ทำเนียบ” เมื่อวันหยุดที่มีการพบกันระหว่าง “ภูมิธรรม” กับ “บิ๊กต่าย” ผบ.ตร. และมีข่าวการพูดคุยถึงคดีดิไอคอนกระทั่งมีการโอนคดีมาให้ DSIดู ที่ก็เป็นจังหวะปะเหมาะพอดีกับช่วงจังหวะ “คดีใหญ่” ที่ถูกโยงการเมืองอีกคดีอย่าง “คดีตากใบ” ที่หลายฝ่ายเคยนำมาเปรียบเทียบกับคดี “ดิไอคอน” ที่ “รัฐบาลอิ๊งค์” ให้ความสำคัญดำเนินคดีอย่างรวดเร็วจับ “18บอส” เข้ากรงอย่างรวดเร็ว

 

 

 

แต่ผู้ต้องหา 14 คนใน “คดีตากใบ” ที่หลบหนีหมายจับจากศาล ไม่มาขึ้นศาล ที่ว่ากันว่าคดีนี้ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมชั้นพนักงานสอบสวนยาวนานหลายปี กลับยังไม่สามารถจับกุมตัวมาได้แม้จะรู้ว่าเหลือเวลาจะหมดอายุความ20ปีในวันที่ 25ต.ค.กระทั่งไม่มีปาฎิหารย์ คดีนี้ก็หมดอายุความไปและวันนี้ “ศาลนราธิวาส” ก็สั่งจำหน่ายคดี ไม่สามารถเอาผิดกับ 14 ผู้ต้องหา ได้ ที่ถูกมองว่าคดีนี้อาจเกิดเอฟเฟ็กต์ กลายเป็น เงื่อนไขการเรียกร้องความยุติธรรม กลายเป็นความบานปลายในพื้นที่

 

 

หลังจากนี้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจากคดี “ทนายสมชาย” และอีกหลายคดี อย่างที่ “เทวฤทธิ์ มณีฉาย” สว.บอกว่า แม้คดีจะหมดอายุความไปแล้ว แต่ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา อยากจะวิงวอน ให้ “นายกฯอิ๊งค์” และ “รองนายกภูมิธรรม” นอกจากจะออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษแล้ว ยังต้องพิสูจน์ด้วยการลงมือทำ หากรัฐบาลจริงใจ นอกจากจะให้ความปลอดภัยกับญาติผู้สูญเสียในคดีตากใบ

 

 

 

หลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงลุกขึ้นมาฟ้องร้องก่อน 1 ปีจะหมดอายุความ เนื่องจากเพิ่งรู้ข้อเท็จจริงว่าคดีถูกชะลอไว้ ตั้งแต่ปี 2557 และแม้คดีจะหมดอายุความแต่สามารถทดเวลาได้ คือร้องขอให้ประเทศต้นทาง ที่รู้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอย่างเป็นทางการดำเนินคดี เพื่อเป็นการแสดงความพยา,ถึงที่สุด ไม่ใช่บอกแค่ว่า “พล.อ. พิศาล” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เพื่อปัดภาระความรับผิดชอบ ไม่ใช่ภาระของพรรค แต่คือภาระความรับผิดชอบของรัฐบาล และต้องแสวงหาข้อเท็จจริง อำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงโดยรัฐ รวมถึงการคุ้มครองประชาชนที่ลุกออกมาเรียกร้อง โดยเฉพาะญาติที่ออกมาฟ้องคดีที่ใช้ความกล้าหาญมาก เนื่องจากอยู่ในภาวะหวาดกลัวมานาน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews