ยังคงเดินหน้าสร้างความเหนือชั้นให้กับ “บิ๊กดีล” สำหรับรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” เพราะล่าสุดกับ “บิ๊กอีเว้นท์ใหญ่” เจ้าภาพซีเกมส์ปีหน้า 2568 รัฐบาลได้จุดประกาศคอนเซป “กรีนซีเกมส์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” พร้อมกับจัดกิจกรรมเคาน์ดาวน์นับถอยหลัง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 วันที่ 7 ธันวาคมนี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน 1 ปี เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมมากที่สุด
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ถึงที่ไปที่มาของ “กรีนซีเกมส์” โดย “ผู้ว่า ก้องศักด” กล่าวว่า การแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
“กรีนแอนด์คลีนซีเกมส์ กรีนก็คือเรื่องของสิ่งแวดล้อม การที่จะทำให้เกมนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ถือว่าเป็นเรื่องของคอนเซ็ปต์ที่เรากีฬากับสิ่งแวดล้อมมันต้องไปด้วยกันได้ โดยที่สิ่งต่างๆที่เราจะใช้ในการจัดการแข่งขันก็ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรื่องของการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ เรื่องของกำจัดขยะรณรงค์ให้ไม่ใช้พลาสติกเรื่องของการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเรื่องของการจัดงานก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของการปล่อยมลพิษ ต่างๆ
เช่นเรื่องของการใช้รถต่างๆ ก็ใช้เป็นรถอีวีหรือว่ารถที่เป็นไฮบริด เรื่องของการชุดต่างๆ ในวัสดุที่ใช้เกี่ยวข้องก็จะเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติ อันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่โมเดลของรัฐบาลที่เราต้องการที่จะให้เป็นโมเดล BCG หรือ Bio-Circular-Green”
นอกจากนี้ “ผู้ว่า ก้องศักด” ยังได้กล่าวถึงกฏกติกาในซีเกมส์ด้วยว่า กกท.เคร่งครัดในเรื่องนี้มาก ดังนั้นการตัดสินต่างๆ จะยึดหลักมาตรฐานสากล และมีความเป็นธรรม
“ส่วนเรื่องคลีนก็เรื่องของการรณรงค์ว่านักกีฬาต้องเป็นธรรมต้องมีความยุติธรรมเราก็จะมีความเคร่งครัดในเรื่องของมาตรฐานสากล การตัดสินต่างๆ ก็ต้องไม่ค้านสายตา เป็นไปด้วยความเป็นธรรม เรื่องของการตรวจโด๊ปต่างๆ ก็รณรงค์เรื่องของการห้ามใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาต่างๆ อันนี้ก็ต้องเป็นคอนเซ็ปต์ว่าเป็นกรีนแอนด์คลีนซีเกมส์”
“ผู้ว่า ก้องศักด” กล่าวอีกว่า “กรีนซีเกมส์” จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทำให้ชาวต่างชาติได้เห็นว่า ประเทศไทยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
“ทำให้เกมการแข่งขันไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วก็สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ต่างชาติได้เห็น ผมคิดว่าเป็นการเริ่มต้นอย่างจริงจังในการที่เราจะจัดอีเวนท์ต่างๆ Festival ต่างๆไม่ใช่เฉพาะอีเวนท์กีฬา แต่รัฐบาลประกาศชัดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบันเทิง กิจกรรมที่รวมคนเยอะๆ ก็จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก จะต้องไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นจุดที่ใช้ในการรณรงค์ด้วยในการที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้หันมาใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อม”
อย่างไรก็ตาม “ผู้ว่า ก้องศักด” ยังได้กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ภายใต้คอนเซป “กรีนซีเกมส์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ด้วยว่า รัฐบาลจะใช้ซีเกมส์ครั้งนี้ เป็นเวที หรือ อีเว้นท์สำคัญในการโปรโมท Soft Power อีกด้วย
“รณรงค์เรื่องน้ำใจนักกีฬาว่าการแข่งขันครั้งนี้ก็จะเป็นตัวอย่างว่า ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าภาพแล้วก็จะต้องใช้ความได้เปรียบต่างๆ ของการเป็นเจ้าภาพทำให้เกิดชัยชนะโดยที่ไม่เป็นธรรม อันนี้ก็จะถือว่าเป็นการใช้ซีเกมส์ให้เป็นประโยชน์ต่อเนื่อง ในการที่จะรณรงค์ในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในการรณรงค์ในเรื่องของความถูกต้อง ความยุติธรรมและก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะใช้ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นเวทีหรือว่าเป็นอีเวนท์ที่สำคัญ ในการที่จะโปรโมทซอฟพาวเวอร์เมืองไทยหรือว่าเสน่ห์ของไทย เสน่ห์เมืองไทย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของกีฬา แต่ว่าเป็นเรื่องของอาหาร เรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องของวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ด้วยครับ”
สำหรับจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 วันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจะมีการจัดชิงชัย 50 ชนิดกีฬา ที่กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ยืนยันถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพ
โดยได้เตรียมการในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน สนามกีฬา การคมนาคม และที่พัก เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการแข่งขันในลักษณะ “Green Sports Event” เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีฯสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการชิงชัยทางกีฬา แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพและความสามัคคีของประชาคมอาเซียน ซึ่งประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ อย่างอบอุ่น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews