ทักษิณออกจากถ้ำ Vs พิธา ธนาธร ศึกอบจ.อุดร
ถูกเคราะห์จะเป็น “สัญญานการเมือง”ในทางบวกส่วนหนึ่งหรืกับ “รัฐบาลเพื่อไทย” และ “นายกฯอิ๊งค์” ที่กำลังโดนมรสุมการเมือง ถูกรุมสกรัมจากบรรดาผู้ใหญ่ อดีตโจทย์ของพ่ออย่าง “ทักษิณ” ทั้งปม “คนชั้น14”,”ปมล้มล้างการปกครอง”และ “ปมครอบงำพรรคการเมือง”และรวมถึงปม “เกาะกูด” ที่ประเดประดังตั้งแท่นอยู่ในองค์กรอิสระรอเช็คบิล หรือไม่
กับการคิว “ออกจากถ้ำ”ของ “ทักษิณ” หลังหายจากหน้าปัดข่าวพักใหญ่ นับแต่ออกตัวแรง ในการ“พลิกเกม”ในการตั้งรัฐบาล หลังอุบัติเหตุการเมืองของ“เศรษฐา”ถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ”สอยจากเก้าอี้นายกฯ จน “ทักษิณ” ต้องให้ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร”ลูกสาวมาเป็นนายกฯแทน โดยลงทุน “ปิดการขาย”ด้วยตัวเองที่“บ้านจันทร์ส่องหล้า”แถมยัง “เล่นใหญ่”โชว์วิชชั่นบนเวทีใหญ่ที่มีบรรดากลุ่มทุนใหญ่แถวหน้ามาร่วมฟัง ที่ต่อมา “วิชชั่น”ดังกล่าวถูกนำมาเป็น “นโยบายรัฐบาล”ที่ “นายกอิ๊งค์”แถลงต่อสภาจนนำมาสู่อาการ “งานเข้า”รัฐบาลที่ บรรดา “นักร้อง”ที่นำโดย “ค่ายบ้านป่า”และ “ค่ายวัดอ้อน้อย”นำไปร้องแบบเชื่อมโยงพฤติกรรม ครอบงำพรรค และ ล้มล้างการปกครอง
อย่างที่จู่ๆก็มีการทิ้งทุ่นเปิดกำหนดการของ “ทักษิณ”ในการเดินทางลงพื้นที่ จ.อุดร เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13-14พ.ย.โดยจะขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนหมื่นคนที่ อ.กุมภวาปี อ.ประจักษ์ในวันที่ 13 และ ขึ้น เวทีปราศรัย์ที่ทุ่งศรีเมืองบ้านดุง กับพี่น้องชาวอ.บ้านดุง อ.ทุ่งฝน ที่จะมาร่วมประมาณ 8,000-10,000 คน ที่ถือเป็นอีกครั้งที่ “ทักษิณ”ไปช่วยหาเสียงนายกอบจ.หลังจากเคยไปช่วย หาเสียง อบจ.ปทุมธานี ที่ต่อมาแม้ผู้สมัครที่เพื่อไทยดันจะชนะแต่ก็เจอกับคดีจนต้องเลือกใหม่และแพ้ “บิ๊กแจ๊ส”น้องรักของ “พี่ทักษิณ”ไป
ที่ความเคลื่อนไหวทุ่มทุนสร้างของ “ทักษิณ”ทำให้ “พรรคประชาชน”ต้องเรียก “พิธา” บินด่วนกลับจากสหรัฐฯเพื่อมาช่วย “นายคณิศร คุริรัง”ผู้สมัคร นายกอบจ.ของพรรคหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย 15-17 พ.ย.ทำให้ สนามเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ถูกจับตาว่าเป็น “ศึกช้างชนช้าง” ระหว่างบ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า กับ พรรคเด็ก ในการชิงพื้นที่เมืองหลวงคนเสื้อแดงที่เป็นฐานที่มั่นของเพื่อไทยเชิงสัญลักษณ์เช่นเดียวกับเชียงใหม่ ที่เป็นบ้านเกิดของครอบครัวชินวัตร ถึงขนาด “ผู้นำจิตวิญญาณ”ของทั้ง 2 พรรค อย่าง “ทักษิณ-ธนาธร”และ “พิธา”ที่เป็น “แม่เหล็ก”ต้องมาช่วย
ในขณะอีกมุมก็ถูกมองว่า “สัญญาน”การออกจากถ้ำของ “ทักษิณ”นอกจากเป็นการส่ง “สัญญาน” ในทางบวก เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับ “รัฐบาลเพื่อไทย”คนเพื่อไทย และ ผู้สมัคร อบจ.อุดร แล้ว อีกด้านยังถูกมองเป็นการแสดงอาการ “ใจดีสู้เสือ”ในจังหวะที่ดูเหมือนจะเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองจากการถูก “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”ที่เป็น “โจทย์เก่า”สะสมกำลังเพิ่มมากขึ้นแถมผนึกกลุ่มอีลีค และ เทคโนแครตเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน รุมถล่มทั้ง “พ่อนายกฯ”และ “นายกฯอิ๊งค์” หากแสดงอาการแผ่วถอดใจก็ยิ่งอาการหนักและอาจส่งผลให้ รัฐบาลอิ๊งค์ ต้องไปเร็วตาม “ไทม์มิ่ง”ที่ “คนบ้านป่า”ขีดเส้นไว้ใน3 เดือน นับแต่วันที่ 10ต.ค.67
อย่างที่ ผู้คนในเพื่อไทยไม่ว่าจะ “สุริยะ” ,”ชูศักดิ์” “ประเสริฐ”ออกมาแจงตอบคำถามในทำนองเดียวกันกับ “สัญญานบวก”ในการกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วยหาเสียง ของ “ทักษิณ” ที่สามารถทำได้ไม่เป็นการครอบงำพรรค ที่แม้ “ชูศักดิ์”จะบอกว่า ต้องแยกกันระหว่างคดีในศาลที่ทุกคนรู้ว่าผู้ร้องคือใคร เป็นการร้องตาม ม.49 ว่าด้วยการล้มล้างการปกครอง แต่พรรคเพื่อไทยดูแล้วคำร้องทั้งหมดนั้นไม่เข้าตามมาตราดังกล่าว ดังนั้นขอใช้คำง่ายๆว่า ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมันมั่วส่วนอีกคำร้องที่ กกต. นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การครอบงำจากนายทักษิณ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews