ระหว่างบรรทัดการเมือง “รัฐบาลเพื่อไทย” โดย “ทักษิณ” ดำเนินไปอย่างย่ามใจฮึกเหิมการเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง”จนชนะศึกเลือกตั้งนายกอบจ.อุดร แม้ภาพใหญ่ “เพื่อไทย” ชนกับ “พรรคเด็ก-ประชาชน”
แต่ภาพซ้อนกลับกลายเป็นการไล่เก็บแต้มกินเงียบของ “ภูมิใจไทย” อันคู่ขนานไปกับร่องรอยการแลกหมัด“นิติสงคราม” เขากระโดง ปะทะ สนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่ “พ่อนายกฯ” อย่าง” ทักษิณ” ที่กำลังมือขึ้นการเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” เหมือนจะติดใจบรรยากาศได้สปีคกิ้งกับมวลชนนับหมื่นที่ทำให้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง
จนมีรายงานข่าวว่ามีการจัดคิวช่วยหาเสียงยาวในเดือนธันวาคม ตั้งแต่ ‘อุบลฯ’ไปจนถึง “เชียงใหม่”ก่อนย้อนกลับมาปิดจ็อบที่’ศรีสะเกษ’ โดยที่อุบลมีการเลือกตั้ง 22 ธ.ค. ทักษิณจะไปช่วยหาเสียงตั้งแต่ 11-14 ธ.ค.ก่อนที่จะไปเชียงใหม่ 23 ธ.ค.เพื่อช่วยผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ของพรรคเพื่อไทยหาเสียงซึ่ง จ.เชียงใหม่ถือเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ และปิดท้ายช่วงปลายเดือน ธ.ค. มีกำหนดการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงที่จ.ศรีสะเกษ
ในขณะอีกด้านแม้จะมีการกัน “นายกอิ๊งค์” ออกจากโหมดการเมือง ไปลุยการบริหารเพื่อปั่นงานกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็ยังมีการถูกเตะตัดขาจาก “นักร้อง” และกลุ่มที่ไม่โอเคกับรัฐบาล ซึ่งอยู่ในกลุ่มอนุรักษ์ที่เคยเป็นโจทก์เก่ากับ “ระบอบทักษิณ” เดิม อย่างที่มีคิว “ลงถนน” ของ “ม็อบสนธิ” ที่นัดมาทำเนียบฯเพื่อจะขอเข้าพบนายกฯให้ตอบคำถามคาใจมากมาย ที่ส่วนใหญ่มี “นักร้อง” ไปร้องไว้ก่อนหน้า
บางเคส “ศาลรัฐธรรมนูญ” ก็ไม่รับไป แต่บางเคสก็ยังอยู่ในองค์กรอิสระกกต.และ ปปช. ในวันจันทร์ 2 ธ.ค.โดยธงหลักมาในภาพชาตินิยม ปม MOU44 ไม่นับรวมเรื่องแทรกแซงแบงค์ชาติที่ทั้ง 2 กรณี มีข่าวว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องอาจเข้าครม.สัญจรที่เชียงใหม่พรุ่งนี้ (29พ.ย.) กระนั้น “ระหว่างบรรทัด” ที่หลายฝ่ายลุ้นว่า “ม็อบจะจุดติด” หรือไม่ เงื่อนไข “สุกงอม” พออย่างที่ทั้ง “ตู่-จตุพร”และ “สนธิ” บอกหรือไม่ ก็มีความน่าสนใจกับ “สัญญาณ” ที่ถูกส่งผ่านจากหลายฝ่ายออกมา
ทั้งการเตือน การบิ๊วอารมณ์ผู้คนให้อย่าเฉยกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่กำลังเกิดขึ้นและทั้งการ “เปิดไต๋” “จับโป๊ะ” ไม่ว่าจะเป็นการออกมาของ “อ.เสรี วงศ์มณฑา” ที่ โพสต์FB ว่า ว้าเหว่จริงๆ ท้อใจและหดหู่มาก ไม่ว่าจะทำผิดแบบไหน ทำไม่เหมาะสมขนาดไหนบดขยี้กระบวนการยุติธรรมขนาดไหน ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ โดยยกในหลายกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่คนชั้น14 การครอบงำพรรค การขึ้นเวทีหาเสียงและพูดผิดกฎหมาย และทิ้งท้ายว่า..เขาจะลอยนวลและทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควรได้อีกกี่เรื่อง เราจะอยู่กันแบบนี้อีกนานแค่ไหน ในอนาคตบ้านเมืองเราจะเป็นอย่างไร จะเฉยกันอีกนานเท่าไหร่ไม่ห่วงประเทศกันเลยหรือไร
ขณะที่ก็น่าสนใจกับการโพสต์FBของ “จักรภพ เพ็ญแข” วันนี้ ที่ออกตัวอธิบายโพสต์ข้อความที่เป็นคำพูดของตนเองที่พูดในรายการคมชัดลึก เมื่อ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า “พรรคเพื่อไทยต้องการใบอนุญาตนี้เพื่อครองอำนาจอยู่ได้ เพื่อทำประโยชน์ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน” “ถ้ามัวแต่เอาใจประชาชนโดยไม่สนใจผู้มีอำนาจเดิม ซึ่งไม่ได้สนใจประชาชนเท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ไปก่อน” “อย่าลืมว่าชีวิตการเมืองอันดับแรก
คือต้องอยู่รอดได้ ทำยังไงก็ได้อย่าให้ตาย เพราะตายก็ทำอะไรไม่ได้”โดย “จักรภพ” ออกมาอธิบายว่าต้องการสื่อถึง สมดุลแห่งอำนาจ (balance of power) ในสังคมไทย ไม่ใช่ไม่เห็นคุณค่าความสำคัญของประชาชนแต่อย่างใดในขณะที่ “อ.ปิยะบุตร” อีกหนึ่งในผู้นำทางความคิดของ “พรรคเด็ก” โพสต์FB เรื่อง “ใบอนุญาต” เช่นกันว่า
แทนที่พรรคการเมืองจะรวมพลัง “ยึด” อำนาจการออกใบอนุญาตที่ 2 ของชนชั้นนำเพื่อให้การเมืองไทยกลับสู่ระบบปกติ ที่มีใบอนุญาตใบเดียวจากประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ แต่พรรคการเมืองกลับเลือกใช้วิธี “หมอบ สยบยอม เอาใจ” ผู้ออกใบอนุญาตที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาส่วนตัว ทำให้โอกาสการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจทางการเมือง ถูกทอดเวลาล่าช้าออกไปอีก 10-20 ปี..
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews