“อิ๊งค์” โชว์วิสัยทัศน์-บิ๊กดีลกีฬา
เปิดโรดแมปรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” กับการสร้างความเหนือชั้นให้กับวงการกีฬาไทยในปี 2568 ผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดอีเวนต์ใหญ่ ให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดังกระหึ่มไปทั่วโลก
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “นายสรวงศ์ เทียนทอง” กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการกีฬาเป็นอย่างมาก ซึ่งในการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ถึง “Sports Diplomacy” หรือการใช้กีฬาเพื่อการทูตระหว่างประเทศ ซึ่งในปีหน้า 2568 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าในการดึงอีเวนต์สำคัญๆ ระดับโลกให้เข้ามาจัดที่ประเทศไทยมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“สังเกตุจากที่ท่านได้ไปประชุมที่การ์ต้า เริ่มตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา ท่านก็ใช้คำว่าเอากีฬาเป็นทูต แล้วสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราพยายามจะดึงอีเว้นท์สำคัญๆ ระดับโลกเข้ามาในเมืองไทย ปีหน้า 2025 เราประกาศเป็น Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 สิ่งที่มีแน่นอนแล้วคือเป็นเจ้าภาพซีเกมส์แน่นอน ซีเกมส์ครั้งที่ 33 จะจัดขึ้นตอนช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2568 ปีหน้า
ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมในการที่จะประกาศการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้เป็น กรีน ซีเกมส์ อีกอย่างนึ่งที่ใกล้ๆที่จะเข้า ครม. แล้วก็คือ การที่จะจัด FIVB Women’s World Championships 2025 ซึ่งจะมี 32 ทีมทั่วโลกมาแข่งในเมืองไทย อันนี้น่าจะอยู่ประมาณกลางๆปี นี้คืออีเว้นท์ระดับโลก”
รัฐมนตรีฯสรวงศ์ กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 มีความพร้อมเต็มที่ในการจัดงานระดับภูมิภาค พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย โดยในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 จะมีการจัดงานแถลงข่าว “นับถอยหลังสู่ซีเกมส์ ครั้งที่ 33” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของคนไทยทั่วประเทศ
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการแข่งขัน และกีฬาสาธิต 3 ชนิด โดยการกำหนดชนิดกีฬาดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาและรับรองจากสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGF)
ในด้านการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา จะมีการแข่งขันทั้งหมด 19 ชนิดกีฬา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับกีฬาโบว์ลิ่งคนพิการ ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เพื่อพิจารณาความเห็นชอบต่อไป
ส่วนตราสัญลักษณ์ของซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีการใช้ ปลากัดไทย เป็นตัวแทน พร้อมคำขวัญ “Ever Forward” (ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง) และนำโชค “มาวิน” ช้างน้ำวารีกุญชร ในขณะที่การแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปคนนั่งรถวีลแชร์ พร้อมคำขวัญ “Create Pride Together” (สร้างความภูมิใจไปด้วยกัน) และนำโชค “น้องใจแกร่ง” แมวโคราช
ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ในครั้งนี้ รัฐมนตรีฯสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดงานระดับนานาชาติ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ชลบุรี สงขลา และนครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วม ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย และแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักกีฬาจากทั่วภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้ารัฐมนตรีฯสรวงศ์ ได้ประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ครั้งที่ 6/2567 โดยรับทราบรายงานผลสำเร็จจากการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
โดยมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 205,343 คน แบ่งเป็นชาวไทย 154,666 คน และชาวต่างชาติ 50,677 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 14% สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวม 4,759 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 6,939 ตำแหน่งตลอดระยะเวลา 1 ปี และสร้างรายได้ภาครัฐในรูปแบบภาษีไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของการจัดงานโมโตจีพีในประเทศไทยอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews