พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ออกมาแถลงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุยิงภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในพื้นที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จนเป็นเหตุให้นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ สจ.โต้ง ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของสุนทร เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา
โดยกล่าวว่า เมื่อคืนนี้ในขณะที่ตำรวจได้รับแจ้งช่วงเกิดเหตุ ยังอยู่ในช่วงของการปิดล้อม ตนเองในฐานะรองผู้บังคับการฯ และผู้กำกับ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้เข้าไปที่เกิดเหตุและทำหน้าที่เจรจาต่อรอง พูดคุยกับมือยิงจนกระทั้งผู้ก่อเหตุยินยอมวางอาวุธปืน สถานการณ์จึงเริ่มคลี่คลาย ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ และจากการตรวจในบ้านวิลาวัลย์ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีชายฉกรรจ์อยู่ 6 คน และมีนายสุนทร พร้อมกับสมาชิกในครอบครัว อยู่ภายในบ้านด้วย
สำหรับร่าง สจ.โต้ง เสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นหน้าบันไดชั้น 1 แต่ผู้ก่อเหตุอยู่บนชั้น 2 การสอบปากคำวันนี้ได้ดำเนินการแจ้งข้อหา ผู้ต้องหา 7 คน รวมถึงนายสุนทร ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับการสอบสวนผุ้ต้องหาดำเนินการสอบปากคำแล้ว 6 คน เหลืออีก 1 คน สำหรับมือยิง 2 คน ยอมสารภาพกับตำรวจว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
โดยตำรวจได้พิจารณาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ในคดีนี้ เนื่องจากว่า เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เพราะถือว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และมีการดำเนินการใช้อาวุธ และจะนำตัวทั้ง 7 คนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผลชันสูตรของ สจ.โต้ง พบกระสุนปืนมากกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กระโหลกและหน้าอกและบริเวณร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด เป็นเหตุให้กระสุนปืนทำลายอวัยวะเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำโดยอุกอาจ จึงได้กำชับในเรื่องของการสอบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่มีประวัติทำผิด และหากพบผู้ใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
และแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็เป็นโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจัดการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลในหลายๆท้องที่ เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews