ผ่านไปแล้วกับการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือนภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งในการแถลงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้สรุปความคืบหน้าของการทำงานรัฐบาล พร้อมชี้แจงนโยบายสำคัญรวมทั้งสิ้น 11 นโยบาย และนโยบายที่เตรียมดำเนินการในปีหน้า 2568 อีก 5 นโยบาย เช่น โครงการ SML, หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน, ดิจิทัลวอลเล็ต และการแก้หนี้ครัวเรือน
ซึ่งในฝั่งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “นายสรวงศ์ เทียนทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวหลังรับมอบนโยบายว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมนำแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีมาปรับใช้ในการดำเนินงาน พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการผลักดันเป้าหมายของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม
โดยบทบาทในฝั่งกีฬานั้น รัฐมนตรีฯสรวงศ์ ได้กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในปี 2568 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าในการดึงอีเวนต์ใหญ่ๆสำคัญๆ ระดับโลกให้เข้ามาจัดที่ประเทศไทยมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยและยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอยู่ตลอดเวลาในการพัฒนากีฬา โดยตั้งใจว่าเงินในกองทุนการกีฬาแห่งชาติซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3-4 พันล้านบาท จะต้องเข้ามาดูแลนักกีฬาอย่างเต็มที่ ส่วนงบประมาณในการจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆนั้น ให้ใช้เงินงบประมาณปกติ
ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กกท.ขานรับนโยบายรัฐมนตรีฯสรวงศ์ในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลและพัฒนานักกีฬาทุกๆคน ผ่านกองทุนการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงอีเวนท์ใหญ่ๆที่จะมีการจัดในปีหน้าอีกด้วย
“เป็นวัตถุประสงค์ของกองทุนอยู่แล้ว ในการที่จะเน้นในเรื่องของการให้เงินกองทุนตกไปกับนักกีฬาให้มากที่สุด ซึ่งก็ท่านรัฐมนตรีก็ให้นโยบายแบบนี้ซึ่งก็เป็นนโยบายที่การกีฬาแห่งประเทศไทยรับมาปฏิบัติ แล้วก็มีแนวทางในการที่จะเพิ่มเติม ในส่วนของสวัสดิการต่างๆในเรื่องของทั้งดูแลตอนเป็นนักกีฬาและหลังจากที่เป็นนักกีฬาด้วย อันนี้ก็อยู่ในระหว่างการทบทวนกฎระเบียบต่างๆในการที่จะมาดูเรื่องของสวัสดิการเรื่องของอะไรต่างๆความเป็นอยู่เพิ่มเติมให้กับนักกีฬา”
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯก้องศักด ยังได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของเงินงบประมาณในกองทุนการกีฬาแห่งชาติด้วยว่า จะมาจากภาษีบาป ปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท
“ภาษีบาปคือมาจากภาษีเหล้าบุหรี่ 2% คล้ายๆกับสสส.จะเป็นรายได้เข้ามาทุกเดือนทุกเดือนอยู่แล้ว ปีนึงก็จะประมาณ 4,000 บวกลบนิดหน่อย ปีนี้อาจจะไม่ถึง 4,000 ล้าน แล้วแต่การบริโภคภาษี อะไรต่างๆมันขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจอะไรต่างๆด้วย ปีนี้ก็คาดว่าน่าจะได้ประมาณสัก 3,900 ล้านบาทเศษ”
และทั้งหมดนี้ก็คือเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อต่อยอดทางเศรษฐกิจซึ่งเชื่อมโยงกับการดูแลนักกีฬานั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews