สร้างความฮือฮาอยู่ไม่น้อย สำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทยในการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน 2024 หรือ ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 เพราะในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ทีมชาติไทยเฉียบขาด เก็บชัยชนะ 4 เกมรวด จากผลงานที่เหนือชั้นบุกชนะติมอร์ เลสเต 10-0 ,ชนะ มาเลเซีย 1-0 ,ชนะ สิงคโปร์ 4-2 และชนะกัมพูชา 3-2 รวม 18 ประตู พร้อมกับการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โพสต์ข้อความถึงสถิติที่น่าสนใจในเกมที่ผ่านมา โดยระบุว่า “18 ประตู จาก 4 นัดช้างศึก ทุบสถิติพังประตูสูงสุด หลังจบรอบแบ่งกลุ่ม ในศึกชิงแชมป์อาเซียน อีก 2 ประตู สู่การทุบสถิติพังประตูสุงสุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ และอีก 4 นัด สู่จ้าวอาเซียนสมัยที่ 8”
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ปรากฏในโลกโซเซียล ก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลฟ์ กดแชร์ พร้อมกับแสดงความคิดเห็น โดยชื่นชมมาดามแป้ง รวมทั้งมาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นและเหล่าบรรดานักเตะทีมชาติไทยกันเป็นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ที่ได้ชื่นชม มาดามแป้ง, โค้ชอิชิอิ และนักฟุตบอลทีมชาติไทย โดย “ผู้ว่า ก้องศักด” กล่าวว่า ทีมชาติไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลากหลายมิติ มีการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้สามารถเรียกศรัทธากลับมาได้
“จากสถิติแล้วก็จากภาพรวมต่างๆ ก็เห็นได้ชัดว่าทีมไทยมาในทิศทางที่ดี แล้วก็สามารถที่จะเรียกศรัทธากลับมาได้ ทุกคนมีความสุขเวลาดูทีมชาติไทยตอนนี้ แม้ว่าบางนัดอาจจะดีบ้าง บางนัดอาจจะไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในภาพรวมของการดูระบบฟุตบอล ผมคิดว่าระบบการเล่นชัดเจนขึ้น มีเรื่องของการจัดการที่ดี ก็ต้องชมตั้งแต่ท่านนายกสมาคมฯ ผู้จัดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโค้ชอิชิอิเอง แล้วก็นักฟุตบอลด้วยที่ดูเป็นระเบียบ มีระเบียบวินัย”
นอกจากนี้ “ผู้ว่า ก้องศักด” ยังได้กล่าวถึงนักฟุตบอลทีมชาติไทยเจเนอเรชั่นใหม่ที่เข้ามาช่วยทีมด้วยว่า ดูมีอนาคต ดูมีทรง สะท้อนได้จากอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งที่ดีขึ้น ซึ่งก็ต้องชื่นชมการบริหารจัดการทีมที่ทางมาซาทาดะ อิชิอิ ได้ดำเนินการกับทีมชาติไทย ส่งผลให้ภาพรวมดีขึ้นตามลำดับ
“ตอนนี้การพัฒนาของเรามันไม่ใช่ในชุดใหญ่อย่างเดียวแล้ว ผมเห็นตัวเด็กๆเรื่องของการเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่ได้เข้ามาร่วมทีม หรือว่าการบริหารจัดการที่ทางอิชิอิเอาระบบของญี่ปุ่นเข้ามาชัดเจนขึ้น แล้วก็เอาไปใช้ไม่ใช่เฉพาะกับชุดใหญ่เท่านั้น แต่เป็นชุดระดับเยาวชน เป็นชุดอะไรที่จะโตขึ้นมาเสริมทีมชาติ ก็คิดว่าเมื่อเด็กเหล่านี้ได้เข้าใจระบบแล้ว พอขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ก็จะมีการปรับตัวที่ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวด้วยครับ”
ดังนั้นเมื่อภาพรวมของทีมชาติไทยดีขึ้น โอกาสที่ทีมจะไปถึงฟุตบอลโลก มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเรื่องนี้ “ผู้ว่า ก้องศักด” ให้มุมมองไว้อย่างน่าสนใจว่า โอกาสเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งทางกกท.พร้อมสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯอย่างเต็มที่
“ฟุตบอลโลกรอบนี้ยังไงเราตกไปแล้ว แต่ว่าครั้งหน้าผมคิดว่าเรามีโอกาส ของไทยเองก็เชื่อว่าโอกาสเปิดกว้างขึ้นด้วยจำนวนทีมที่มากขึ้นในรอบสุดท้ายก็จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้น ก็อยากที่จะให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงให้ได้ การกีฬาก็จะมีหน้าที่ในการที่จะซัพพอร์ต ในเรื่องของทางเทคนิคต่างๆในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา เรื่องของการดูแลนักฟุตบอล
หรือว่าการสนับสนุนให้ลีก ไทยลีกมีความแข็งแกร่งในปีนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยก็จะมีโครงการสำคัญก็คือเรื่องของการจัดยูธลีก หรือว่ายูธเยาวชนไม่ว่าจะเป็นในระดับตั้งแต่ 13 15 17 19 ขึ้นไปอันนี้ก็จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกับการกีฬาแห่งประเทศไทยในการที่จะผลักดัน ยูธลีกขึ้นมาเพื่อที่จะรองรับอนาคตเตรียมการเป็นนักฟุตบอลต่อไป ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาฟุตบอลในระยะยาว
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามผลงานของนักฟุตบอลชายทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 อย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 นี้ จะไปเยือนฟิลิปปินส์ ในรอบรองชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจะเป็นอีก 1 แมตซ์วัดฝีมือนักเตะไทย สู่การเป็นแชมป์รายการนี้อีก 1 สมัย และถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของทีมชาติไทย ที่เชื่อมโยงกับศรัทธาบอลไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews