ปีใหม่ร้อน-เช็กบิลนักร้อง & 44 ส.ส.ก้าวไกล?
เปิดทำการมาวันแรกหกลังหยุดปีใหม่ ก็เริ่มกรุ่นๆอุ่นเตารอบรรยากาศการเมืองปี 2568 ที่โหรดังหลายสำนัก ทำนายทายทัก ว่า จะร้อนประทุ ตั้งแต่หลังเดือนกุมภาพันธ์68 เป็นต้นไป
ทั้งประเด็น “ติดปลายนวม” ที่ข้ามจากปี 67 มาปีนี้ กับเกมนิติสงคราม ที่ “นักร้อง” หลายค่าย เปิดหัววางบิล “รัฐบาลอิ๊งค์” ตั้งแต่ “พ่อนายกฯ” ไปจนถึง “นายกฯ” ไว้ตลอดปี67 ทั้งปมครอบงำพรรคการเมือง ทั้งปม คนชั้น14 หรือ ปม MOU44 ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ “ม็อบรวมกันเฉพาะกิจ” ของอดีตเครือข่ายต้านระบอบทักษิณกับ อดีตคนกันเองกับ “ทักษิณ”
รวมถึงร่องรอยปัญหา “เสถียรภาพรัฐบาล” ที่เกิดจากความขัดแย้งแบบ “ตบจูบ” ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ ภูมิใจไทย จนต้องมีฉาก “ก๊วนกอล์ฟ” กันหลายรอบ กระทั่งนำมาสู่บท “ดุดัน” ของ “ทักษิณ” ในหลายเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ.ที่ไฟว่ทุกฝ่ายทั้ง “พรรคร่วมรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน”
แม้กระนั้นร่องรอยอันนำไปสู่ “สัญญานการเมือง” 3เส้าการเมือง ระหว่าง “เพื่อไทย” “พรรคร่วมรัฐบาล” ตั้งแต่ภูมิใจไทย ยัน รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)และ “พรรคเด็กประชาชน” รวมถึงบท “รุกรบแรง” ของ “ทักษิณ” ที่พร้อมตอบโต้เอาคืนกับขบวนการเตะตัดขา “รัฐบาล” ไม่แต่ “บิ๊กการเมือง” ยังรวมไปถึงการขู่
“เช็คบิล” บรรดา “นักร้อง” ที่เกิดขึ้นปลายปี67 และ “พรรคเพื่อไทย” ก็รับมุขเตรียมขยับ ก็ยังถูกวิเคราะห์ข้ามมาถึงปีนี้
อย่างที่วันนี้เริ่มเห็น “นักร้อง” ออกมาขยับ อย่าง “สนธิญา” ที่ออกมาร้องนายกฯให้สอบ “ทักษิณ” เรื่องไปคุยกับ “อันวาร์” นายกมาเลเซีย และทวงถามเงินดิจิทัลวอเล็ต และ การยกเลิกMOU44 พร้อมทั้งยินดีให้ “ทักษิณ” เช็คบิล หลังจากหลายวันก่อน “เรืองไกร” ออกมาขยับตอบโต้ หลังจากที่ “ทักษิณ” ให้ทนายไปความแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีกับ “ธีรยุทธ” ข้อหาหมิ่นประมาทจากการให้สัมภาษณ์ สื่อบริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญโดยกล่าวหาว่าครอบงำพรรคล้มล้างการปกครอง
เช่นเดียวกับ “สัญญาน” ที่เกิดขึ้นช่วงหลายปีจากองค์กรอิสระ กับความคืบหน้าที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.68 ต่อ “ชะตากรรม” ของบรรดาตัวตึง44ส.ส. จาก “พรรคเด็กประชาชน” ที่ “สาโรจน์ พึงรำพรรณ” เลขาธิการปปช.ออกมา(9ธ.ค.67) บอกว่า คดีร้องจริยธรรมร้ายแรง 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขม. 112 อนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมหลักฐาน ใกล้จะแล้วเสร็จ
คาดว่าเดือน ม.ค. 2568 คณะอนุกรรมการไต่สวนจะสามารถสรุปสำนวนเพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้โดย การสรุปสำนวนจะมี 2 แนวทาง หากเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ก็เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา หากเห็นว่า ไม่มีมูลเพียงพอ ก็จะสรุปสำนวนให้ข้อกล่าวหาตกไป
ที่ “สัญญาน” ดังกล่าวนำมาสู่การวิเคราะห์การใส่เกียร์เดินหน้าของ “ทักษิณ” ให้ “ผู้คุมดีล” ยังคงใช้บริการต่อไป หลังจากที่มีการมองตัวเลือกทั้ง “ภูมิใจไทย ”และ “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ระยะหลัง “พีรพันธ์” เริ่มมีบทบาทเข้าตากรรมการ เช่นเดียวกับ “หัวหน้าหนู” ก่อนหน้า
โดยขนานไปกับท่าทีความไม่พอใจของ “กลุ่มต้านระบอบทักษิณ” ที่ร่วมกับ “ระบบราชการ” ที่วิเคราะห์กันว่า “ทักษิณ” ไม่พอใจการปัดแข้งปัดขา ทำให้ “รัฐบาลอิ๊งค์” ไม่สามารถปั่นผลงานแก้โจทย์เศรษฐกิจได้ จนนำมาสู่การวิเคราะห์ด้วยว่าหาก “รัฐบาลเพื่อไทย” ไม่มีผลงานก็อันตราย ยิ่งในปีนีอยู่ในสมัยประชุมที่ “ฝ่ายค้าน” เตรียม ยื่นซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ที่ภาพรวมปฏิกริยาดุดันของทักษิณที่นำมาสู่การเดินหน้า “เช็คบิล” ฝ่ายตรงข้าม ถูกมองว่าเป็นการ “เร่งปฏิกิริยา” และอาจส่งผลกระทบทั้งต่อแพลนการต้องการให้ “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยรวมถึงกระทบต่อ “นายกฯอิ๊งค์” อย่างที่ “เทพไท” ออกมาFBเตือน ว่า “ทักษิณ” คนเดิมกลับมาแล้ว
จากการแสดงท่าทีแข็งกร้าวเล่นงาน ฝ่ายตรงข้ามแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ที่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่สมัย “ทักษิณ” เป็นนายก ได้ใช้กลไกรัฐ และอำนาจรัฐตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือบุคคลในวงการสื่อจะเห็นได้ว่า ยังมีการใช้วิธีการเล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเหมือนเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews