#ไม่เอากาสิโน Vs ปูดทุนเทาล้มคอมเพล็กซ์ฯ?
ทำท่าจะบานต่อกับกระแสคัดค้าน “ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” หรือ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่พ่วงด้วย “กาสิโน”
โดยผ่านมติครม. “รัฐบาลอิ๊งค์” ไปเมื่อวันจันทร์(6ม.ค.) นับวันจะเพิ่มมากขึ้นจากสังคม ไม่แต่ “อดีตสว.สมชาย” ที่เมื่อวาน(15ม.ค.)ออกมาล่ารายชื่อประชาชน1ล้านคนไทยรักชาติ เพื่อคัดค้านนโยบายนี้ ที่เขาบอกว่าสิ้นคิดกับการทำบ่อนคาสิโนเพื่อแบ่งเค้กผลประโยชน์การเมืองและเป็นแหล่งฟอกเงิน
โดย “อดีตสว.สมชาย” ที่วันนี้(16ม.ค.)ยังออกมาโพสจั่วหัวตัวโตๆ ว่า “ไม่เอาคาสิโน” ยังมีการระบุในการล่ารายชื่อด้วยว่า เพราะกฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดคาสิโนได้อย่างเสรี และก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมทั้งปัญหาอาชญากรรมการฟอกเงิน การทุจริตคอรัปชั่น การประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ฯลฯ หากคุณคือคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย กรุณาร่วมกันส่งเสียงต่อรัฐบาลผ่านการลงชื่อแสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน”
ไม่แต่ “อดีตสว.สมชาย” ยังมี “หมอวรงค์ เดชวิกรม” ที่ออกมาโพสFBติด #เราไม่เอากาสิโน หรือบ่อนที่รัฐบาลจะตั้งขึ้นด้วย 5 เหตุผลการตั้งกาสิโนจะเป็นแหล่งหาผลประโยชน์ให้นักการเมือง มากกว่าผลประโยชน์ประชาชน, เป็นแหล่งฟอกเงิน การอ้างว่าเอาของใต้ดินมาอยู่บนดิน สังคมที่เละเทะแบบนี้ แน่ใจหรือว่าของใต้ดินจะหมดไปดูแนวโน้มแล้วของใต้ดินจะยิ่งมากขึ้น ชอบอ้างดึงดูดการท่องเที่ยว ดึงดูดการลงทุน การจ้างงาน
ไม่รู้หรือว่าประเทศไทยมีเสน่ห์ดึงดูดการท่องเที่ยวเหนือกว่าการมีบ่อนกาสิโนอยู่แล้ว และว่าตราบใดที่รัฐบาลชุดนี้ มีพ่อที่มีอำนาจเหนือกฏหมาย กระบวนการยุติธรรมของประเทศถูกทำลาย ถ้ามีคาสิโนประเทศจะยิ่งเละไปกันใหญ่ ถ้าจะเปิดกาสิโนจริงๆ ต้องจัดการตำรวจเลิกรับส่วย กฏหมายเป็นกฏหมาย ใครทำได้เมื่อไร ค่อยมาคิดเปิดกาสิโน
ขณะที่ “ฝ่ายรัฐบาล” นอกจากการออกมาย้ำของ “โฆษกรัฐบาล” “จิรายุ” ว่ามีข้อมูลฝ่ายมั่นคง พบว่า มี “กลุ่มทุนสีเทา” ขยับจ้องล้มเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดย “จิรายุ” ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหาบ่อนพนัน สกัดกลุ่มทุนเจ้าของบ่อน ต้านหวังคว่ำพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
ในขณะที่ “หมอมิ้ง” “นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช” เลขาธิการนายกฯ ยืนยันว่า ปมผลกระทบสังคมมีการศึกษาในโมเดลการป้องกันต่างๆแล้ว ทั้งจากการควบคุมเรื่องสถานที่ และการจำกัดคนไทยในการเข้า รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางเงิน ที่มา ต้องถูกต้อง มีระบบควบคุมดี ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้มีมาแล้วในต่างประเทศ
ซึ่งรัฐบาลก็เปิดรับฟังข้อห่วงใย และร่างกฎหมายเพิ่งผ่านหลักการไปยังสามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ ส่วนที่ “โฆษกรัฐบาล” บอกว่าพวกคัดค้านไม่เอาเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เป็นกลุ่มทุนบ่อนสีเทานั้น ความเห็นขณะนี้คือฟังเสียงประชาชน เวลาอะไรเข้ามาเปลี่ยนก็มักมีปฏิกิริยา เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ ก่อนจะสร้างก็เคยเจอกระแสค้าน เรามีบทเรียนจากเขา ไม่ทำให้เสียหายแบบนั้น ความเห็นที่ออกมาต่อสาธารณะ เป็นความเห็นบริสุทธิ์ ส่วนที่โฆษกออกมาระบุ น่าจะมีข้อมูลว่ามี “ไอโอ” เข้ามาผสมโรง แต่ไม่ใช่กระแสหลัก
เรียกว่าแม้แนวโน้มเสียงสังคมจะมาในทรงกังวลต่อผลกระทบสังคม และห่วงทุนเทาจีนจะเข้ามาเอี่ยว รวมถึงการเป็นแหล่งฟอกเงินของขบวนการผิดกฎหมาย และนักการเมือง ในขณะที่รัฐบาลหรือแม้กระทั่งในตัวร่าง ถูกมองว่ามีการพุ่งเป้าน้ำหนักไปในมิติเศรษฐกิจมากกว่ามิติผลกระทบสังคม โดยอ้างว่ามั่นใจว่ากลุ่มทุนที่เข้ามาติดต่อ 6-7 เจ้าตอนนี้ มีประสบการณ์ควบคุมป้องกันการรั่วไหลของ “ระบบ” อยู่แล้ว ที่ความเป็นห่วงเหล่านี้ดูจะสอดรับกับข้อท้วงติง
จากกฤษฎีกาที่มีความเห็นประกอบการพิจารณาว่าการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ควรทำให้ชัดเจน ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสันทนาการโดยมนุษย์ทำขึ้นตามนโยบายรัฐบาล หรือแก้ปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน นำธุรกิจสีเทาหรือบ่อนพนันใต้ดินเข้าสู่ระบบ เช่นเดียวกับท่าทีของ “สภาพัฒน์ฯ” ที่เห็นว่าต้องให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย พิจารณาผลกระทบด้านลบต่อสังคมที่สำคัญชี้ว่าในกรณีการพนันในลักษณะเงินโอน จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจไม่ส่งผลบวกเท่าที่รัฐบาลคาดการณ์เอาไว้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews