Home
|
ข่าว

“นายกฯ” ถกส่วนราชการแก้ปัญหาฝุ่นควัน

 

 

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2568

 

 

 

 

พร้อมเน้นย้ำเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนดำเนินการผลักดันให้เห็นผลเป็นรูปธรรม การกระชับความร่วมมือในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน โดยขอให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน มุ่งไปสู่การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้นและการดูแลความมั่นคง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหลักในการร่วมดำเนินการในเรื่องการป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ และการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวและกลุ่มชาติพันธุ์

 

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรรีพิสุทธ์ เตมียเวส ออกมามระบุหลังเข้าให้ข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่าถ้าโรงพยาบาลตำรวจไม่ส่งเวชระเบียนการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้ ป.ป.ช.โรงพยาบาลตำรวจอาจถูกฟ้องได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง

 

โดยระบุ เรื่องนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่บอกว่ายุคไหน แต่เมื่อตนเป็น ผบ.ตร. เรื่องนี้เป็นเรื่องประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก็ได้บอกไปแล้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอำนาจหน้าที่ของแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่จะพิจารณาในรูปคณะกรรมการและต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องให้อนุญาตเข้าเยี่ยมชาวอุยกูร์ เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่แย่ ว่า เรื่องนี้หากให้เกิดความชัดเจนให้ไปถามผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตนเองทราบว่ามีการเตรียมปรับปรุงพื้นที่ดูแลผู้ต้องขัง และมีการให้ออกกำลังกายด้วย รวมไปถึงการดูแลเรื่องอาหาร เพราะเขาอยู่กับเรามา 10 ปี หากดูแลไม่ดี คงมีข่าวมาแต่แรกแล้ว

 

ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องการส่งกลับหรือไม่ส่งกลับ แล้วก็มาจนถึงเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น คงมีมานานแล้ว

 

ส่วนเรื่องการตัดไฟฟ้าและสัญญาญอินเตอร็เน็ตแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ผบ.ตร.ระบุว่า เสาสัญญาณพบว่ามีเสาสัญญาณที่น่าเชื่อว่า เป็นการให้สัญญาณ กับทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแต่ได้มีการประสานงานยกเลิกพร้อมล้มเสา และหันกลับมาให้คนไทยใช้งานในหลายจุด ส่วนการลักลอบใช้ไฟฟ้านั้น เบื้องต้นเป็นเรื่องของการใช้ เครื่องปั่นไฟ แต่การใช้ไฟของราชการไทยนั้นขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คนถูกหลอกไปทำงาน และถูกบังคับไปใช้งาน ซึ่งจะโยงไปกับเรื่องการค้ามนุษย์

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube