Home
|
ข่าว

ฮือฮา! ใช้สภาฯ ทดลองกาง “มุ้งสู้ฝุ่น” ช่วยกลุ่มเปราะบาง

 

 

 

ด้วยสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ทำให้ทั้ง สส. และ กรรมาธิการ ต่างออกมาแสดงความคิดเห็น รวมถึงการช่วยกันหามาตรการป้องกัน โดย กมธ.สาธารณสุข จับมือกับ อธิบดีกรมอนามัย โชว์นวัตกรรมใหม่กลางสภา ใช้ “มุ้งสู้ฝุ่น” ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ใช้งบ ไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ขณะที่ กมธ.การเกษตร เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุม เพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นพิษ ในภาคการเกษตร

 

 

 

 

เริ่มจาก นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยต่อประชาชน ซึ่งพบว่า มีผู้สูงอายุ และเด็กจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับการสัมผัสฝุ่น PM 2.5

 

กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดทำ “มุ้งสู้ฝุ่น” เพื่อจะช่วยลดฝุ่น ให้ประชาชนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศสะอาด โดยมีการพัฒนาต้นแบบจาก อาจารย์ คณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเป็นการประยุกต์ใช้หลักการทำห้องปลอดฝุ่น กันฝุ่น กรองฝุ่น สำหรับบ้านเรือนที่ไม่สามารถปิดหน้าต่างได้สนิท ที่มีกลุ่มบอบบางผู้ป่วยติดเตียง มีงบประมาณจำกัด

 

โดยอุปกรณ์ที่จัดทำ ใช้งบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท ประชาชนสามารถทำเองได้ คือ ใช้มุ้งผ้าฝ้าย ไส้กรองอากาศและพัดลม โดยจะเป็นการสร้างความดันบวกภายในมุ้ง ด้วยการใส่เครื่องกรองอากาศติดกับพัดลมเป่าเข้าไปข้างในมุ้ง สร้างความดันบวกที่สูงกว่าข้างนอก จะผลักดันไม่ให้ PM 2.5 เข้าไปในมุ้ง ซึ่งจากการศึกษา ที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีประสิทธิภาพ ในการลดฝุ่น 36.3 – 75 เปอร์เซ็น

 

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวว่า เรื่องนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วง กลุ่มเปราะบาง และผู้ป่วยติดเตียงที่มีสิ่งแวดล้อมเปื้อนฝุ่น ไม่สามารถหนีไปที่ไหนได้ ดังนั้น ทางเลือกที่สำคัญ คือ จะลดอัตราการเจ็บป่วยจากภาวะหัวใจล้มเหลวได้เพราะแต่ละครั้งการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาทต่อครั้ง และมุ้งกันฝุ่นมีการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดอัตราการนอนโรงพยาบาลของผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจ จึงเป็นนโยบายของรัฐมนตรีที่มุ่งสู่ผลให้ครอบคลุมกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะในพื้นที่เปื้อนฝุ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

 

ขณะเดียวกัน นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะ กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าว เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาคการเกษตร โดย กมธ. นัดประชุมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว การปศุสัตว์ กรมประมง กรมควบคุมมลพิษและสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เข้าร่วมหารือ

 

ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลดำเนินการนโยบายโดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากราคาผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ ซึ่งควรบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 และมีการทบทวนมาตรการต่าง ๆ ร่วมกันทั้งระบบ เพื่อให้สามารถป้องกันปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรเร่งทบทวนมาตรการลงโทษเกษตรกรที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมมองว่า ตัดสิทธิ์ แต่วันที่ 1 มิ.ย. – วันที่ 31 พ.ค. 70 เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป และไม่ควรตัดสิทธิเข้ารับความช่วยเหลือในทุกโครงการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรของเกษตรกรในระยะยาว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube