Home
|
ข่าว

สังคมกดดัน “รัฐบาลอิ๊งค์” ดึงเช็งศึกซักฟอก?

 

 

 

อาการสังคม เริ่มตั้งคำถาม ตกลงปัญหาอยู่ที่ใคร ระหว่างรัฐบาล หรือ ฝ่ายค้าน “ทำไมไม่จบซักที” กับกระบวนการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พุ่งเป้าไปที่ “นายกฯอิ๊งค์” พ่วงด้วย “คุณพ่อนายกฯ” อย่าง “ทักษิณ”

 

 

 

 

ที่กลายเป็นว่า แม้จะ มีการ “เคลียร์คัต” กับ “ประธานวันนอร์” ที่ให้ “ฝ่ายค้าน-พรรคเด็กประชาชน” แก้เนื้อหาในญัตติที่พาดพิงชื่อของ “ทักษิณ” โดยขู่หากไม่แก้ก็ไม่บรรจุและอาจไม่ทันสมัยประชุมนี้ที่จะหมดในช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่ตอนแรก “พรรคเด็ก” ก็ยืนกรานกระทั่งถูกกระแสวิจารณ์ “ฮั้ว” กันล่ำศึกซักฟอก จนทำให้ “พรรคเด็ก” ยอมถอยเอาชื่อ “ทักษิณ” ออกเปลี่ยนเป็นคำเรียกอื่น ที่ “หัวหน้าเท้ง” ขออุบไม่บอกว่าเปลี่ยนเป็นชื่ออะไร แม้ก่อนหน้าจะคาดเดาจาก “เพื่อไทย” ว่าจบลงที่คำว่า “พ่อ”

 

แต่เรื่องก็ยังไม่จบ เมื่อ “ฝ่ายค้าน” ขอยื่นหมูยื่นแมว ด้วยการขอเวลาอภิปรายเป็น 30 ชั่วโมง ทำนองรวม 3 วัน โดย 2วัน เป็นเนื้อหาซักฟอก อีก 1 วันเป็นการลงมติ แต่ “วิสุทธิ์” ปฎิเสธว่าการเอาชื่อ “ทักษิณ” ออกเป็นเรื่องระหว่าง “ประธานวันนอร์” กับ “ฝ่ายค้าน” ไม่เกี่ยวกับประเด็น “กรอบเวลาการอภิปราย” ที่จะเป็นข้อสรุปจากประธานวิปรัฐบาล ที่บอกเป็นเรื่องของ “วิป3ฝ่าย” ที่ยังคงยืนยันกรอบเดิม

 

ซึ่ง “ฝ่ายค้าน” ก็ยืนยันจะแก้ญัตติคำว่า “ทักษิณ” เมื่อตกลงกรอบเวลาได้ ส่งผลให้ข้อหารือในวิประหว่างฝ่ายค้าน และรัฐบาล เมื่อวาน(13มี.ค.)ยังไม่ได้ข้อสรุปต้องเลื่อนออกไปวีคหน้า(19มี.ค.) โดยในมุมของผู้คนในรัฐบาลส่วนใหญ่มองว่ามากไป อย่างที่ “เสี่ยหนู-อนุทิน” บอกว่า มองการที่ฝ่ายค้านพยายามใช้กระแสสังคมกดดันรัฐบาลให้ทำตามข้อเรียกร้อง วิธีแบบนี้ไม่เคยประสบความสำเร็จ เพราะต้องใช้เหตุใช้ผล ทำงานด้วยกันในสภาฯ มีเหตุมีผลก็ฟังกัน มีคนมาบอกว่าใช้เวลาทั้งหมด 30 ชั่วโมง แต่ให้รัฐบาลแค่ 2 ชั่วโมง คงไม่ไหว ต้องจัดสรรเวลาให้มากกว่านี้ แต่อย่ากังวลเรื่องเวลา ยิ่งให้รัฐบาลมีเวลาชี้แจงก็จะสามารถนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชน

 

ขณะที่ “หัวหน้าเท้ง” ที่ยอมรับว่า การเปลี่ยนชื่อ “ทักษิณ” เป็น “ไพ่อีกใบหนึ่ง” ที่ถือไว้ต่อรองเรื่องเวลากับรัฐบาล รวมไปถึงการตรวจสอบรัฐบาล ตนคิดว่าสิ่งที่สังคมไม่อยากเห็น คือ ในเมื่อตอนนี้ จะให้ปรับถ้อยคำเราก็ยอม เพราะฉะนั้นก็อยากจะเห็นรัฐบาลเปิดโอกาสให้พวกเราอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างเต็มที่เรื่องการปรับคำในญัตติเป็นเรื่องขอ “อ.วันนอร์” ส่วนการเลือกใช้คำ ก็ส่งผลกับการที่รัฐบาลจะยอมหรือไม่ยอมให้ฝ่ายค้านเดินหน้าต่อ หากดูจากท่าทีของ สส. พรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่าการใช้คำมีส่วนสำคัญที่จะให้ฝ่ายค้านเดินหน้าต่อหรือไม่ในเมื่อผู้นำฝั่งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีพูดออกมาชัดเจนว่า ไม่มีปัญหา

 

ซึ่งที่จริงมีการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง ว่า เดือนหนึ่งก็ได้ ส่วนที่ “นายอนุทิน” ระบุว่า “ฝ่ายค้าน” ใช้สังคมกดดัน เคยทำอะไรสำเร็จบ้างนั้นเห็นว่า “นายอนุทิน” จะรู้สึกว่าสังคมกดดันหรือไม่กดดัน ก็อยู่ที่การกระทำของฝ่ายรัฐบาลด้วย ฝ่ายค้านเองก็เช่นเดียวกัน การอภิปรายในสภาการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดล้วนอยู่ในสายตาประชาชน ถ้าท่านรู้สึกว่าสังคมกดดันก็อาจจะเป็นการกระทำของตัวท่านเอง

 

กระนั้น อีกด้านหนึ่งเรื่องนี้เริ่มมีเสียงวิจารณ์การการ “ตั้งแง่” ของ “รัฐบาล” เรื่องเงื่อนเวลาการ “ซักฟอก” นายกฯอิ๊งค์ที่พูดกันมาตั้งแต่ก่อนหน้ามีปัญหาเรื่องชื่อ “ทักษิณ” แล้ว ที่เอาเข้าจริง ไม่ได้มากไปกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯคนเดียวในอดีตที่เคยมีการอภิปราย สมัย “นายบรรหาร ศิลปะอาชา” และ “บิ๊กจิ๊ว-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” เป็นนายกฯ ที่โดนซักฟอกไปคนละ 4 วัน คือ 3 วันอภิปรายเต็ม ๆ แบบข้ามวันข้ามคืน ก่อนจะลงมติในวันที่4 อย่างที่ “เทพไท”โพสFB มองว่า รัฐบาลควรใจกว้างให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ

 

เมื่อยอมถอยแก้ไขชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติแล้ว ควรจะให้เวลาพอสมควรกับฝ่ายค้านในการอภิปราย ไม่ควรใจแคบใช้เวลาบีบบังคับการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน การใช้ระยะเวลาอภิปรายมากน้อยเพียงใดไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะเรื่องนี้ตัว “นายกอิ๊งค์” ก็มีความพร้อมให้ตรวจสอบ เพราะเคยให้สัมภาษณ์ไว้แล้วว่าพร้อมจะตอบคำถาม และตั้ง “องครักษ์” มาช่วย รวมทั้งรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ก็พร้อมจะสนับสนุน ยังคงมีแต่แกนนำ และส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนเท่านั้น ที่พยายามเกี่ยงเงื่อนไขเพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบมากที่สุด

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube