Home
|
ข่าว

ทองขึ้นแรงมาก ไปกันต่อ

 

 

 

กรี๊ดกร๊าดกันเลยทีเดียวสำหรับราคาทองคำในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น 500 บาทต่อบาททองคำ ทันทีที่เปิดตลาดเช้าวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ตามราคาทองโลกหรือ Gold Spot ที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หรือ All-Time High และล่าสุดทะลุ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

ท่ามกลางความกังวลในภาวะเศรษฐกิจที่ตึงเครียดจากนโยบายการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ในการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมทั่วโลก 25% โดยความตึงเครียดดังกล่าว “นักวิเคราะห์” มองว่า ดูจะขยายตัวมากขึ้นทั้งในฝั่งยุโรป จีน แคนาดา และเม็กซิโก

 

โดยล่าสุด ทองคำแท่ง รับซื้อ 47,400 บาท ขายออก 47,500 บาท

 

ทองรูปพรรณ รับซื้อ 46,541 บาท 20 สตางค์ ขายออก 48,300 บาท

 

ทั้งนี้ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงแนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ โดย “นายจิตติ” กล่าวว่า ภาพรวมทิศทางราคาทองยังเป็นขาขึ้น เพราะมีปัจจัยหนุนมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

 

“ตอนนี้อยู่ในช่วงสงครามการค้า มันก็ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ทุกคนดูสินทรัพย์เป็นทองคำ ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยต่อการลงทุนทองคำเพิ่มขึ้น ก็คาดการณ์ว่าโอกาสจะขยับขึ้นมาคงมี อาจจะต้องเป็นจังหวะดีที่ลงทุนช่วงนี้”

 

สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนยังจะต้องติตดามอย่างใกล้ชิดก็คือ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะมีความคืบหน้าเป็นอย่างไร รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อกำหนดทิศทางของอัตราดอกเบี้ย และนโยบายของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”

 

“ก็ต้องดูว่านโยบายยูเครน รัสเซียเขาเจรจามีความคืบหน้าอะไรบ้าง ก็ตอนนี้เฟด เค้ามีการประชุมดอกเบี้ยแต่คิดว่าดอกเบี้ยตอนนี้ไม่ค่อยสำคัญแล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนมองว่าทองคำยังน่าลงทุนอยู่”

 

ด้าน “นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า ราคาทองคำในปี 2568 ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 362.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 13.80% เช่นเดียวกับราคาทองคำแท่ง 96.5% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 5,100 บาทต่อบาททองคำ หรือ 12.03% และมองว่าภาพรวมปีนี้ทองคำจะยังเป็นขาขึ้น แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมาบ้างในระยะสั้น

 

ขณะที่ “ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผย ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน มีนาคม 2568 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ได้แก่ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางชาติต่าง ๆ ทั่วโลก แรงซื้อเก็งกำไร และความตึงเครียดของสงครามการค้า

 

สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือนมีนาคมของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองว่า ราคาทองคำแท่ง 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 45,900 – 47,900 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ

 

ทั้งนี้ การลงทุนทองคำในเดือน มีนาคม ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล “ทรัมป์” ที่เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ และภาวะสงครามทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น สำหรับการลงทุนในช่วงนี้คือการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง และทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยนักลงทุนควรติดตามแนวรับและแนวต้านสำคัญ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบต่อราคาทองคำเพื่อประกอบการวางแผนการลงทุน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube