Home
|
ข่าว

ดราม่าปลาหมอคางดำVsซักฟอก “คนในครอบครัว” นายกฯ

 

 

จังหวะก่อนศึกซักฟอกสัปดาห์หน้า หลัง “ฝ่ายค้าน” ไฟนอล ยื่นญัตติแบบเหลี่ยมมาเหลี่ยมกลับยื่นญัตติแก้ไขให้เห็น ๆ ว่า มีการ “ขีดฆ่า” ชื่อ “ทักษิณ” และ “บิดานายกฯ” ออก เปลี่ยนเป็น “บุคคลในครอบครัว” ที่กลายเป็น “ความหมายครอบจักรวาล” ยิ่งกว่าเฉพาะตัว “ทักษิณ”

 

 

 

กระทั่ง มีการประชุมวิป3ฝ่ายเคาะจบกรอบเวลาอภิปรายรัฐบาล 24-27 มี.ค. โดยฝ่ายค้านได้เวลา 28ชม. นายกอิ๊งค์ และ รัฐมนตรี ชี้แจงได้เวลา 7 ชม. ในขณะที่ พรรคเพื่อไทยมีคำสั่งจาก “ศูนย์อำนาจ” สั่งกลางวงประชุมพรรควันซักฟอก ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามป่วย ในขณะที่มีการนัด “นัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล” โดยมี รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)เป็นเจ้ามือ วันศุกร์นี้(21มี.ค.)

 

แต่ จู่ ๆ ก็มีเรื่องพาดพิงไปยัง “บุคคลในครอบครัว” ที่ไม่ใช่ “ทักษิณ” แต่เป็น “ลูก ๆ” ของ “นายกฯอิ๊งค์” จนต่อมา “มนุษย์แม่” ร้อน ต้องออกมาแจงยาวปม “ดราม่า” ถูกกล่าวหา พาลูกวิ่งเล่นสนามหญ้าในทำเนียบฯเมื่อวาน(18มี.ค.) โดยไม่สนใจ “ม็อบประชาชน” ที่เดือดร้อนจาก “ปัญหาปลาหมอคางดำ” ที่มาตากแดดรอด้านนอกทำเนียบฯ เพราะ ยังคงได้รับความเดือดร้อน จนต้องมาทวงสัญญาการแก้ไขปัญหาการระบาดหนักส่งผลกระทบทั่วประเทศ แม้รัฐบาลตั้งแต่ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ จะเคยรับปากแก้ปัญหาให้ชะงัด

 

โดย“นายกฯอิ๊งค์” นอกจากจะยืนยันว่าเรื่องนี้ได้สั่งการกรมประมงไปดูแลแล้ว ยังแจงครหา “คนในครอบครัว” คือลูก ๆ ที่เธอพามาวิ่งเล่น โดย ออกตัวขอให้เข้าใจหัวอก “มนุษย์แม่” ทำนอง คนเราไม่ได้มีมิติเดียว ทำงาน ก็คือทำงาน เรื่องของประชาชน และความเดือดร้อนต้องดูแลแน่นอนอยู่แล้ว เรื่องปลาหมอคางดำได้สั่งการกรมประมงเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วน เรื่องของการพาลูกวิ่งเล่น ก็พาลูกวิ่งเล่นทุกครั้งที่มีโอกาส ถ้าใกล้ชิดกับลูกได้ก็อยากใกล้ชิดไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด เพราะวันใดที่ตารางแน่น ไม่สามารถใกล้ชิดกับลูกได้ ก็ไม่ได้เจอกันก็เหมือนพ่อแม่ที่ทำงานทั่วไป เรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจในชีวิตของมนุษย์ ชีวิตมนุษย์แม่ก็ทำงาน มนุษย์พ่อก็ทำงานมนุษย์ลุงป้าน้าอาก็ทำงาน และทุกมนุษย์ก็มีครอบครัว ทุกชีวิตสามารถมีความสุขของตัวเองได้

 

การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญไม่ได้แปลว่าทำอย่างหนึ่งแล้วไม่ได้ทำอย่างหนึ่ง ในเรื่องงานก็อยู่ในหัวตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะทำงานทุกวันแนะนำให้ทุกท่านดูแลสุขภาพ แบ่งเวลาให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อองค์กร ครอบครัว หน่วยงาน และประเทศ และรู้สึกปกติที่การขยับซ้ายขยับขวาก็เจอแต่ดราม่า ถ้าไม่มีก็อาจจะคิดถึง

 

เรียกว่าแม้ในมิติการเมืองจะดูเป็น “สัญญาน” ของ “ตัวอย่าง” ผลกระทบ “บุคคลในครอบครัว” ของ “นายกฯอิ๊งค์” ที่ปกติแต่ละมูฟเม้นท์ไม่ว่าจะเป็นมิติการบ้านและ การเมือง ก็มักจะถูก “ดราม่า” อยู่แล้วตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ จนถึงเรื่องใหญ่ ๆ ในฐานะ “ผู้นำประเทศ” ยิ่งมาถูก “ฝ่ายค้าน-พรรคเด็ก” จับจุดประเด็นความรู้ความสามารถที่ “ถูกครอบงำ” จาก “บุคคลในครอบครัว”

 

โดยเฉพาะ “ทักษิณ” อดีตนายกฯ ผู้เป็น “บิดา” ที่ทำท่า ว่า ถึงเวลาจริงอาจขยายขอบเขตความหมาย “บุคคลในครอบครัว” ไปมากกว่าเดิม อย่างที่ “หัวหน้าเท้ง” ยอมรับวันนี้(19มี.ค.)ว่าการเปลี่ยนญัตติจากชื่อ “ทักษิณ” เป็น “คนในครอบครัว” และการใช้ ชื่อในการอภิปรายครั้งนี้ว่า ‘ดีลแลกประเทศ’ เพราะฝ่ายค้านเล็งเห็นว่า “พรรคเพื่อไทย” เอาประโยชน์ของประเทศมาแลกกับผลประโยชน์ของ “บุคคลในครอบครัว”

 

และว่า การเปลี่ยนเป็นคำว่า “บุคคลในครอบครัว” เป็นการเปิดกว้างในการอภิปรายได้มากขึ้นการใช้คำในการอภิปรายในวันจริง เชื่อว่า จะมีคำที่หลากหลายนอกเหนือจากคำว่า บุคคลในครอบครัวการใช้คำว่าบุคคลในครอบครัวเป็นภาษาทางการที่เขียนไว้ในญัตติ คิดว่าเป็นคำที่ค่อนข้างเหมาะสมแล้ว นอกจากนี้ การเปลี่ยนเป็นคำว่า บุคคลในครอบครัว มีความเป็นไปได้ที่จะรวม “ญาติอื่น”ใน “ตระกูลชินวัตร” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยซึ่งอาจรวมถึง อดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์”

 

อย่างที่ “วิโรจน์” บอก แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และ มองว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้รวมถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนหรือประเทศเป็นตัวตั้ง แต่เอาผลประโยชน์ของบุคคลในครอบครัวชินวัตรเป็นตัวตั้งมากกว่า

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube