เช็คบิล “อิ๊งค์” หลังซักฟอก-ปรับครม.
จบไปแล้วสำหรับ “ศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” โดยโฟกัสที่การอภิปรายเฉพาะ “นายกฯอิ๊งค์” แบบไม่ผิดคาดจากทุกฝ่ายว่า “นายกอิ๊งค์” จะได้รับการไว้วางใจไปด้วยเสียง 319ต่อ162 เสียงมากกว่า “อาปู-ยิ่งลักษณ์” สมัยถูกอภิปราย
แม้โดยการประเมินจาก “ข้อกล่าวหา” นับสิบข้อของฝ่ายค้าน ที่นำโดย “พรรคเด็ก-ประชาชน” ของ “นายกฯอิ๊งค์” ใน “ทางลบ” กับ ท่วงทำนองอารมณ์ตอบโต้ “ย้อนศร” แฝงอยู่ในเนื้อหาที่แทบจะไม่ได้เป็นการชี้แจงในรายละเอียดตามที่ถูกซักฟอก เพียงแต่ หลายฝ่ายจะได้เห็นจาก “ผลลัพธ์” ช่วงการลงมติไว้วางใจ ว่าใครเป็นใคร ใครเป็น “งูเห่า” จากฝ่ายค้าน ที่ปรากฎเป็นเสียงสนับสนุนนายกฯ 7 ราย
แต่ที่ถูกจับตา “ช็อตต่อไป” หลังจาก “ศึกซักฟอก” จบลงไปแล้ว คือการ “เช็คบิล” หรือราคาที่ “นายกฯอิ๊งค์” และ พรรคเพื่อไทย ต้องจ่าย ใน 2 มิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติของกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะนำไปสู่การดำเนินการในขั้นตอนกฎหมายจต่อ “นายกฯอิ๊งค์” ตามที่ “ฝ่ายค้าน” กล่าวหา โดยการยื่นร้องต่อองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น ปปช. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ
ในเคสที่ “เข้าข่าย” อย่างที่ ผู้นำฝ่ายค้าน “หัวหน้าเท้ง-ณัฐพงษ์” ที่นอกจากจะออกตัวเรื่องขึ้นไปชักภาพ กับ “นายกอิ๊งค์” พร้อม “ไหม” เป็นการแสดงสปิริต แล้วยังยืนยันสิ่งที่ “ฝ่ายค้าน” อภิปรายไป ไม่เสียของแน่นอน หากซักฟอก นายกฯ ไม่เป็นผล เตรียมเกลือโรยดำเนินการต่อไม่ขอประเมินอายุรัฐบาล หาก “แพทองธาร” อยู่ต่อ คนไทยจะอายุสั้นลง
เช่นเดียวกับอดีตสว. “สมชาย แสวงการ”ที่ออกมาชี้ช่องให้ฝ่ายค้านผ่านFB ในฐานะผู้สังเกตุการณ์การเมืองขอเสนอแนะความเห็นและข้อกฎหมาย เพื่อให้สังคมทราบและฝ่ายค้านพิจารณาไปดำเนินการต่อโดย
1)ยื่นตรวจสอบเอาผิดกล่าวโทษ ต่อ ปปช เรื่องตั๋วPN4.4พันล้าน ว่า สงสัยหลีกเลี่ยงหรือหนีภาษีจากนิติกรรมอำพรางตั๋วสัญญาการใช้เงิน (Promissory Note) หรือPN ,
2)ยื่นตรวจสอบเอาผิด ต่อปปช กรณีชั้น14 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา157 ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตำรวจ ไม่กำกับดูแล กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์ต่อนายทักษิณให้ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ โดยให้ได้สิทธิพิเศษไปนอนพักอยู่ที่รพตร ชั้น14 ,
3)ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา160(4) (5) เพราะไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลายกรณี อาทิ การถือครองที่ธรณีสงฆ์และเป็นกรรมการบริหารสนามกอล์ฟอัลไพน์ การทำตั๋วสัญญาPN 4.4พันล้าน
เข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษี หรือทำนิติกรรมอำพรางหรือไม่
และ 4)ฝ่ายค้าน และคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการตรวจสอบการบริหารงานของนายกและรัฐบาลอย่างเข้มข้นกว่าเดิมต่อไปในหลายกรณี อาทิ การดำเนินนโยบายผิดพลาดในการแจกเงินดิจิตอลที่ไม่ส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจ ,การตัดทอนการใช้คืนเงินกู้ตามพรบงบประมาณประจำปี ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา144
,การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การแก้วิกฤตเศรษฐกิจและสังคมการบิดเบือนกระบวนการบริหารโทษกรณีชั้น14 ฯลฯ
ขณะที่อีกมิติกับ “บิล” ที่ต้องเคลียร์กับฝ่ายต่างๆทั้ง “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่พร้อมใจช่วยให้ผ่านศึกซักฟอกมาได้แบบราบรื่น และรวมถึง “คนกันเอง” ที่เคยมีข่าวเป็น “มืองาน” ทางการเมืองแบบ “นิติสงคราม” ให้กับ “พ่อนายกฯ” ในการตอบโต้ “ฝ่ายตรงข้าม” แม้กระทั่งในศึกซักฟอกหนนี้ที่ปรากฏร่องรอย “ส.ส.งูเห่า” ที่ยกมือ “ไว้วางใจ” นายกฯอิ๊งค์ จนเป็นที่มาของกระแสข่าวการปรับครม.หลังศึกซักฟอกก่อนหน้านี้ ที่มีการยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสอบถามปมความชัดเจนในปม “จริยธรรม”
ที่แม้ “นายกฯอิ๊งค์” วันนี้(26มี.ค.)นอกจากจะขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว และยืนยันว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม ยังไม่มีแพลนการปรับครม. ยังออกตัวเรื่อง “ส.ส.งูเห่า” ทำนองไม่ได้พึ่งเสียงของ “งูเห่า” ไม่ต้องการให้มีภาพ “งูเห่า” คะแนนของพรรค ร่วมฯ ก็พออยู่แล้ว และปฏิเสธที่จะต้องตอบแทนคนนำ “งูเห่า” มา เพราะไม่ทราบว่างูเห่าจากไหน ใครคืองูเห่า ส่วนที่ว่าจะเอามาต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ถ้าย้ายมานั้นไม่มีการต่อรองเกิดขึ้นทั้งนั้น ก่อนยืนยันว่า มีการคุยกับ “ทักษิณ” แล้วว่ายังไม่มีการปรับครม.ซึ่ง “ทักษิณ” ก็รับทราบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews